นายกฯเตรียมประชุม ครม. จับตาความพร้อมเพรียงของรัฐมนตรีจากพรรคร่วม ขณะกระทรวงการคลัง เตรียมเสนอปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล แก้น้ำมันแพง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เตรียมเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีเต็มคณะ ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาลโดยมีประเด็นที่น่าสนใจ ความพร้อมเพรียงของคณะรัฐมนตรี หลังจากสัปดาห์ก่อน คณะรัฐมนตรีในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ไม่เข้าประชุม เนื่องจากประท้วงกระทรวงมหาดไทยนำเรื่องการต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว เข้าหารือ และในภายหลังนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงว่า
“เป็นความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน และไม่อยากทำให้เกิดการปะทะกันในที่ประชุมจนเสียบรรยากาศ หลังจากนี้จะไม่ลาประชุมอีก และไม่มีปัญหากันในพรรคร่วม อย่างไรก็ตามวันนี้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ไม่ได้เข้าประชุม เนื่องจากติดภารกิจเดินทางไปร่วมงานโรดโชว์ที่ประเทศสิงคโปร์”
พร้อมกันนี้ยังต้องติดตามการเตรียมความพร้อมของรัฐบาล ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่ฝ่ายค้านของเปิดอภิปรายทั่วไป แบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 ในวันที่ 17 -18ก.พ.นี้ ว่านายกรัฐมนตรี จะมีการเน้นย้ำกับพรรคร่วมรัฐบาลเตรียมข้อมูลในการชี้แจง อย่างไรบ้าง
ทั้งนี้ ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นำคณะครู เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณในการผลักดันการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู นอกจากนี้นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และคณะผู้บริหาร เข้าพบนายกรัฐมนตรีเพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรม “Workation Thailand ทำงานเที่ยวได้ รวมใจช่วยชาติ” และการแข่งขันวิ่งมาราธอนส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับโลก ครั้งที่ 4 ประจำปี 2564 รายการ “Amazing Thailand Marathon Bangkok 2021”
สำหรับวาระการประชุมอื่นๆ ที่น่าสนใจในวันนี้ กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอที่ประชุมพิจารณาเห็นชอบการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงไม่เกิน 3 บาทต่อลิตร โดยออกเป็นร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….
ซึ่งปัจจุบันกรมสรรพสามิตจัดเก็บภาษีน้ำมันดีเซลในอัตรา5.99 บาทต่อลิตร สามารถจัดเก็บรายได้ประมาณเดือนละ 1.2 หมื่นล้านบาท หรือปีละประมาณ 1.44 แสนล้านบาท จากการใช้น้ำมันประมาณ 2 พันล้านลิตรต่อเดือน
ขณะที่คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ จะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พิจารณามาตรการสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งจะส่งเสริมการใช้อีวี 3 ประเภทได้แก่ รถยนต์ รถจักรยานยนต์และรถกระบะ โดยจะมีผลบังคับใช้เดือน พ.ค.นี้ และเมื่อผ่าน ครม.แล้วหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะไปออกกฎหมายและทำสัญญากับค่ายรถที่เข้าร่วม
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews