“สุเทพ”ขึ้นศาลสอบคำให้การนัดแรกคดีทุจริต396โรงพัก ยันเป็นโอกาสดีได้ชี้แจงข้อกล่าวหา ย้ำไม่ได้ทำผิด ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เดินทางมาศาลฎีกาพร้อม นายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความ เพื่อสอบปากคำให้การนัดแรกในคดีที่ทางคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตเเห่งชาติ (ป.ป.ช.) ฟ้อง นายสุเทพ กับพวก รวม 6 คน กรณีทุจริตสร้างสถานีตำรวจ 396 ทั่วประเทศ
รวมมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก ต่อศาลฎีกา ฐานกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 กรณีอนุมัติเปลี่ยนเเปลงวิธีจัดซื้อจัดจ้างโครงการสร้างโรงพักทดเเทน 396 เเห่ง ในขณะดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
โดยนายสุเทพ ได้กล่าวก่อนเข้าสู่ห้องพิจารณาคดีว่า วันนี้ถือเป็นโอกาสดี ที่จะได้ชี้แจง ข้อกล่าวหาในประเด็นดังกล่าว ซึ่งวันนี้ จะยื่นคำให้การโดยย่อ จำนวน 31 หน้า เพื่อแสดงให้เห็นแนวทางการต่อสู้คดี และคิดว่าหลังจากวันนี้ จะไม่ยืดเยื้อแล้ว โดยอาจจะใช้เวลา 1-3 เดือน และคาดว่าน่าจะจบภายในปี 2565 นี้ และวันนี้ก็รู้สึกสบายใจขึ้น เพราะทุกข์ทรมานมาหลายปี จะได้ยุติเสียที
ทั้งนี้ แนวทางการต่อสู้ ยืนยันว่า ตนเองไม่ได้กระทำผิดและดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี และกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง เพราะมติคณะรัฐมนตรีไม่มีเรื่องการกำหนดวิธีการจัดซื้อจัดจ้าง แต่เป็นเรื่องของหัวหน้าส่วนราชการในยุคนั้น ที่จัดซื้อจัดจ้างโดยแบ่งเป็นภาค ซึ่ง ตนเองก็เห็นว่าเป็นวิธีการจัดซื้อจัดจ้างที่ดีที่สุด ซึ่งพลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในขณะนั้นเสนอมา
และขณะที่ตนเองเห็นชอบสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังไม่ได้ขอตั้งงบประมาณ หลังจากนั่นต่อมาเมื่อมีการจัดตั้งงบประมาณแทนที่จะทำเป็น 9 โครงการ แต่กลับทำเป็นสัญญาเดียว และต่อมาเมื่อพลตำรวจเอกปทีป ตันประเสริฐ รักษาการผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แย้งว่า สัญญาดังกล่าวทำไม่ได้เพราะเข้าข่ายแบ่งซื้อแบ่งจ้างผิดกฎหมาย เนื่องจากร่างประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 ออกแล้ว จึงเสนอว่าวิธีการที่ตนเองเห็นชอบขณะนั้นต้องยกเลิกเปลี่ยนมาทำให้ สัญญาเดียว ซึ่งเมื่อไปตรวจดูพบว่า ร่างสัญญางบประมาณรายจ่ายทำเป็นสัญญาเดียว
ซึ่งเมื่อไปตรวจดูพบว่า ร่างสัญญางบประมาณรายจ่ายทำเป็นสัญญาเดียว จึงมีการอนุมัติตามที่ขอมา หลังจากนั้นจึงเป็นขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีการ การประมูลแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีผู้เข้าแข่งขัน 5 ราย ผู้ชนะการประมูล เสนอต่ำกว่าราคากลาง 540 ล้านบาท และต่อมา พลตำรวจเอก วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คนต่อมา ได้ทำเรื่องเสนอ ยืนยันดำเนินการอย่างถูกต้องตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยพัสดุ ด้วยวิธีการจัดซื้อจัดจ้างทางอิเล็กทรอนิกส์ จึงได้เซ็นต์ลงนามตามเสนอมา
จากนั้นตนเองก็พ้นจากตำแหน่ง และมีการขยายเวลาก่อสร้างอีก 270 วัน และในขณะนั้นนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดี กรมสอบสวนคดีพิเศษ นำเรื่องนี้มาโจมตีหวังผลทางการเมืองช่วยพลตำรวจเอกพงศพัฒน์ พงษ์เจริญ ในช่วงการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ซึ่งตนเองก็ได้ยื่นฟ้องนายธาริต จนนำไปสู่การตัดสินจำคุกและนายธาริต ก็นำเรื่องนี้ไปยื่นฟ้องต่อ ป.ป.ช. แต่ทางป.ป.ช.ไม่รับฟังพยานบุคคลที่รู้ข้อเท็จจริง เช่น เลขาธิการ และรองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี รวมถึงผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ และจะนำบุคคลเหล่านี้มาซักค้านใน การต่อสู้คดีนี้ด้วย เพราะอำนาจศาลฎีกาสามารถ เรียกพยานบุคคล เหล่านี้มาให้ปากคำได้
ส่วนหากชนะคดี จะฟ้องกลับ ป.ป.ช.หรือไม่นั้น อยากให้รอดูตอนจบ รับรองพวกเราจะชอบใจ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews