นายกฯลุกขึ้นชี้แจง หลัง”ชลน่าน”เปิดญัตติ ยันพร้อมรับฟังด้วยเหตุผล ย้อนต่างคนต่างเล่นกันคนละบทบาท แนะให้ย้อนดูตัวคนเล่น ย้ำไม่ใช่รัฐบาลเดิม จากปี57
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลุกขึ้นชี้แจงทันทีภายหลัง นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้าน เปิดญัตติอภิปรายเป็นคนแรก ว่า พร้อมที่จะรับฟังด้วยเหตุด้วยผล อะไรที่เป็นประโยชน์ อะไรที่จะนำไปแก้ไข ก็พร้อมที่จะรับไปดำเนินการ แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากสถานการณ์ในขณะนี้
มีหลายสถานการณ์เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน รัฐบาลพยายามจะแก้ไขปัญหา ดำเนินการมาโดยตลอด ซึ่งไม่ใช่ตนทำแค่คนเดียว ซึ่งร่วมมือกับคณะทำงานต่างๆ รัฐบาล รัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี พรรคร่วมรัฐบาล และส่วนข้าราชการทั้งประเทศ เป็นจำนวนหลายแสนคน ที่ช่วยกันทำงานในช่วงที่ผ่านมา ถ้าท่านกล่าวว่า เป็นข้อบกพร่องและเป็นปัญหาอยู่
ซึ่งจากข้อมูลที่นายแพทย์ชลน่าน ได้กล่าวมาทั้งหมดหลายอย่าง ยังไม่ได้ลงในรายละเอียด ซึ่งตนคิดว่าเวลาที่เหลือต่อจากนี้คณะรัฐมนตรีของตน มีคำชี้แจงที่จะลงรายละเอียดให้กับนายแพทย์ชลน่าน เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับฟังด้านเดียว แต่จะได้รับฟังเรื่องของการแก้ไขปัญหา ความก้าวหน้า และหลักคิดแนวคิดต่างๆ ซึ่งหลายคนในที่นี้อาจมองว่ารัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี ไม่มีความสามารถ แต่อย่างไรก็ตามทั้งหมด ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ และความเชื่อมั่นของประชาชน ทั้งประเทศ
ส่วนที่ระบุว่า นายกรัฐมนตรี เข้าสภาควรวางบทบาทให้เหมือนกับรามเกียรติ์ ซึ่งตนคงเล่นบทพระรามพระลักษณ์ แต่อีกฝ่ายก็คงต้องเล่นเป็นบททศกัณฐ์ ตนคิดว่าประเทศชาติคงไม่ใช่แบบรามเกียรติ์ แต่ท้ายที่สุด รามเกียรติ์ก็รู้อยู่แล้วว่าทศกัณฐ์เป็นอย่างไรในตอนท้าย อันนั้นคือข้อเท็จจริง ตนจะไม่กล่าวอะไรอีก ที่จะทำให้เกิดความวุ่นวาย เพื่อให้เกิดความทะเลาะเบาะแว้ง หรือไม่พอใจกันอีก พยายามจะระมัดระวัง อย่างที่สุด
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวในช่วงท้ายว่า ต่างคนต่างเล่นกันคนละบทบาทอยู่แล้วท่านให้ผมเป็นพระลักษณ์พระรามก็แล้วแต่ ท่านอยากเป็นทศกัณฐ์ก็แล้วแต่ ดูหนังดูละคร ก็ขอให้ย้อนดูตัวคนเล่นละครด้วย ตนก็ถูกท่านดูอยู่ และตนเองก็ต้องดูละครตัวอื่นๆด้วย จึงจะสำเร็จประเทศไทยใหญ่กว่ารามเกียรติ์เยอะ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ระบุว่าสิ่งที่นายแพทย์ชลน่านได้กล่าวมานั้น มีประเด็นอยู่ประมาณ 15 ประเด็น โดยสิ่งแรกที่นายแพทย์ชลน่านได้กล่าวนั้นไม่ใช่ข้อเท็จจริงคล้ายกับว่าท่านพูดว่ารัฐบาลนี้ใช้อำนาจ เป็นกลไกเข้าสู่อำนาจ รวมถึงรัฐธรรมนูญอะไรก็แล้วแต่
พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลนี้ ไม่ใช่รัฐบาลเดิม จากปี 2557 ไม่ใช่ทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้นั่งตามรัฐธรรมนูญปี 2560 และคนที่อยู่ในอำนาจเดิมก็มาทำหน้าที่ใหม่ ตามรัฐธรรมนูญใหม่ ตามกฎหมายใหม่ ตัวบุคคลไม่ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีมีอยู่ 4 คนที่ซ้ำกับเดิม นอกจากนั้น 32 คนเป็นคนใหม่ทั้งหมด ซึ่งนโยบายก็ต่างกันอย่างแน่นอน
นอกจากนั้นนายกรัฐมนตรียังชี้แจงประเด็น ที่ถูกกล่าวหา การปฏิรูปการเมืองไม่คืบหน้า ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญและบริหารราชการท้องถิ่นพร้อมกระจายอยู่แล้ว แต่ถามว่างบประมาณของท้องถิ่นเก็บได้มากน้อยเพียงใด รัฐบาลไม่เคยหวง มีแต่สนับสนุน มีแต่หาเงินมาเติมให้ขอให้ไปย้อนดูงบประมาณแต่ละปีสนับสนุนเพิ่มเติมไป
ส่วนประเด็นการบริหารงาน ของรัฐบาลส่อไปทางทุจริต ส่งผลต่องบประมาณ พูดด้วยเสียงมีอารมณ์ ว่า อย่าพูดคำนี้กับตนเอง หากว่าไม่มีหลักฐาน ไม่มีคดีความ
ที่ทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นซึ่งกันและกัน พร้อมยืนยันว่า เข้ามาตรงนี้ จากวันนั้นถึงวันนี้ และวันต่อๆไป ถ้ายังอยู่จะไม่มีการทุจริตโดยเด็ดขาด
ส่วนผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโควิดหลายรอบ นั้น การกู้เงินอีก 5 แสนล้านบาท มีการฟื้นฟูเยียวยาต่อเนื่องได้หลายโครงการบรรเทาความเดือดร้อน แล้วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 มีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยส.ส.ระบุว่า การบริหารประเทศ รัฐบาลนี้บอบช้ำในทุกด้านล้มเหลว ขอให้ไปตามว่าประเทศรอบบ้านเขาเป็นอย่างไรบ้าง อันไหนที่เราแย่กว่า อันไหนที่เราดีกว่า
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews