“อนุทิน”ย้ำสธ.ยังไม่ยกเลิกยูเซ็ปขออย่าเข้าใจผิด ยันนายกฯไม่เคยคิดตัดงบรักษาประชาชนปัดขัดแย้งกทม.พร้อมสนับสนุน แต่ต้องเคารพกติกา ไม่ก้าวก่ายการทำหน้าที่กัน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า กระทรวงสาธารณสุข ยังไม่ยกเลิกผู้ติดเชื้อโควิด ออกจากการรักษาวิกฤตฉุกเฉิน หรือ ยูเซ็ป ซึ่งเมื่อวานในการประชุมคณะรัฐมนตรี เป็นการนำเสนอระบบความมั่นคงด้านสาธารณสุข เพื่อให้เกิดความมั่นใจ ในสถานการณ์ที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น หากมีความต้องการที่จะใช้เตียงในโรงพยาบาล เพราะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นรายวันยิ่งต้องเพิ่มความมั่นใจ ซึ่งครม.มีความห่วงใย แต่เราได้อธิบายไปแล้ว ขออย่าเข้าใจผิดไม่ได้เป็นการตีกลับหรือตีตกข้อเสนอของสาธารณสุข เพียงแต่เป็นการทำให้ราบรื่นที่สุดเนื่องจากกลัวประชาชนเกิดความสับสน พร้อมยืนยันว่า?ไม่ได้เป็นการประหยัดงบประมาณ เพราะเป็นงบที่นายกรัฐมนตรี ผันมาจากงบกลางเพื่อดูแลประชาชน ไม่เคยคิดที่จะตัดงบประมาณในส่วนนี้อยู่แล้ว
ส่วนที่ประชาชนติดต่อไปยังสายด่วน1330 กว่า 40,000 คนแต่ไม่มีใครรับสายนั้นนายอนุทิน ระบุว่าสปสช.กำลังเร่งดำเนินการแก้ไขอยู่โดยจะมีการเพิ่มคู่สายและรับCall Centerเพิ่มขณะปัญหาที่เกิดขึ้นในกรุงเทพมหานคร ได้ประสานกับกรมการแพทย์ เร่งจัดการแก้ไขปัญหาร่วมกัน พร้อมขอบคุณหน่วยงานต่างๆ อาทิ มูลนิธิเส้นด้าย ได่ ไดอาน่า จงจินตนาการ ผู้ก่อตั้งเพจ “เราต้องรอด” ที่ช่วยการสะท้อนปัญหาและย้ำว่า เตียงรักษาผู้ป่วยมีเพียงพอ ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยเฉพาะโรงพยาบาลที่ขึ้นตรงกับกระทรวงสาธารณสุขมีความพร้อม ทั้งโรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลเลิดสิน และโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี
ทั้งนี้ นายอนุทิน ยืนยันว่า กระทรวงสาธารณสุขไม่ได้มีปัญหากันกับกรุงเทพมหานคร แม้ว่าที่ผ่านมาคนจะมองว่ามีปัญหากันในเรื่องการประสานงานจึงทำให้เกิดปัญหา ซึ่งไม่มีอะไรที่ขัดแย้งกันและไม่เคยขัดแย้ง ช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาโดยตลอด โดยพร้อมให้การสนับสนุนสถานพยาบาลและเตียงให้กับกรุงเทพมหานครอย่างเต็มที่ ส่วนที่กรุงเทพมหานครได้เพิ่มเตียงรองรับผู้ป่วยสีแดง กระทรวงสาธารณสุขจะต้องสนับสนุน เพราะนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขคือการสนับสนุนหากกรุงเทพมหานครร้องขอมา
อย่างไรก็ตามในส่วนของตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันที่สูงขึ้นทะลุ 20,000 รายจะเสนอเพิ่มมาตรการในที่ประชุมศบค.หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่าจะต้องไม่มีผู้ป่วยอาการรุนแรงและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น ซึ่งขอให้ประชาชนระมัดระวังตนเองทุกกิจกรรม และเร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเข็มที่ 3 และเข็มที่ 4 พร้อมยืนยันว่า กระทรวงสาธารณสุข ไม่มีการตกแต่งตัวเลข ปิดบัง และปกปิดตัวเลข เราต้องอยู่กับความจริง
ส่วนมาตรการรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทย ที่จะมีการปรับลดวงเงินประกันสุขภาพ จาก 50,000 เหรียญ เหลือ 30,000 เหรียญทอง คิดเป็นเงินไทยเป็นเงิน 1 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่เหมาะสมแลถเพียงพอสำหรับการรักษาพยาบาลชาวต่างชาติ เป็นการ อำนวยความสะดวกกับทุกฝ่ายและครอบคลุมการรักษา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews