“นิกร” วอนสมาชิกรัฐสภา หนุนร่างแก้ พรป.พรรคการเมือง “ระวี” อ้างพรรคเล็ก เสนอปรับแก้ไข 9 ประเด็น ชี้ ไพรมารีโหวต หลักการดี แต่ทำได้ยาก
นายนิกร จำนง สส.พรรคชาติไทยพัฒนา และสมาชิกรัฐสภา ได้อภิปรายสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง(ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. (ฉบับนายวิเชียร ชวลิต) ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา โดยตนได้ร่วมเป็นผู้ลงนามเสนอด้วย ได้เสนอ 2 ประเด็นที่สำคัญ คือ หลักการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 35 เกี่ยวกับตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด และหลักการเกี่ยวกับการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนทั้งสองแบบให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญที่สามารถปฏิบัติได้ ในมาตรา 50 และมาตรา 53 ของกฏหมายเดิม ที่เป็นการให้มีการเลือกตั้งเบื้องต้น หรือ Primary Election จากต่างประเทศที่ไม่สอดคล้องกับระบบการเมืองไทยและปฏิบัติไม่ได้จริง
ทั้งนี้ ขอให้สมาชิกรัฐสภาช่วยสนับสนุนการแก้ไขเพิ่มเติมกฏหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่มีปัญหาในภาคปฏิบัติเป็นอย่างยิ่ง ให้ดีขึ้นด้วยรัฐสภาของเรา เราไม่จําเป็นต้องไปทบทวนว่าปัญหานี้มาจากใคร มาจากอะไร แต่เรามีความจําเป็นตัองร่วมกันแก้ไขปัญหาที่ชัดเจนนี้ด้วยมือของเราเอง โดยนายนิกร ได้รับการเสนอชื่อเป็นคณะกรรมาธิการร่างพ.ร.ป.เลือกตั้ง ซึ่งจะได้มาทำหน้าที่ในร่างพ.ร.ป.พรรคการเมืองฉบับนี้ด้วย
ด้านนพ.ระวี มาดฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ อภิปรายแนวทางการแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ในนามของพรรคเล็ก โดยมีข้อเสนอดังนี้
1.การลดค่าใช้จ่าย ได้แก่ ยกเลิกค่าสมัครสมาชิก 100 บาท เนื่องจากสังคมไทยยังไม่ถึงเวลา ไม่เหมือนต่างประเทศที่คนเอาเงินมาให้พรรคหาเสียง ถามว่าตอนนี้มีพรรคไหนบ้างที่ประชาชนจ่ายเงินค่าสมาชิกพรรคเอง ถ้ายกเลิกไม่ได้ก็อาจจะลดเหลือ 10 บาทต่อปี
2.การส่งผู้สมัคร ส.ส. เขตและบัญชีรายชื่อ ที่ต้องจ่าย 10,000 บาทต่อคน ถ้าส่งครบคือ 5 ล้านบาท พรรคเล็กจะเงินจากไหนไปสมัคร ควรแก้ไขเป็น 1,000 บาทต่อคน
3.ค่าปรับ พรรคต่างๆ จะโดนค่าปรับเยอะไปหมด นับวันผิดก็โดนปรับ และค่าปรับจำนวนมหาศาลเป็นหลักแสน ซึ่งควรยกเลิก หรือถ้าบางหมวดที่ต้องปรับก็อาจจะลดเหลือ 3-5%
4.การทำไพรมารีโหวต หลักการดี แต่ทำได้ยาก เพราะถ้าจะส่งผู้สมัคร 400 เขต ต้องมีสมาชิก 50,000 คน และต้องทำไพรมารีโหวต 400 ครั้ง ค่าสมาชิกก็เกือบ 5 ล้านบาท ค่าจัดการอีกก็เกือบ 5 ล้านบาท ยังไม่เลือกตั้งเลยหมดไปเกือบ 10 ล้านบาท แล้วพรรคเล็กจะอยู่ได้ยังไง จะเหลือเฉพาะพรรคนายทุน
5.ส่วนกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส. ควรเปลี่ยนเป็นอำนาจของกรรมการบริหารพรรค
6.ยกเลิกตัวแทนพรรค เหลือแต่สาขาภาคละ 1 สาขา และลดจำนวนสมาชิกแต่ละจาก 500 เหลือ 100 คน และลดผู้เข้าประชุมจาก 100 คนเหลือ 30-50 คนต่อครั้ง
7.จำนวนสมาชิกพรรคปีแรก ไม่น้อยกว่า 5,000 คน ครบ 4 ปีต้องเกิน 10,000 คน ควรแก้ปีแรก 1,000 คน 4 ปี 3,000 คน
8.การประชุมใหญ่พรรคใช้เวลามาก ควรลดให้เหลือ 100 คนก็ประชุมใหญ่ได้ และการเลือกกรรมการบริหารพรรคในที่ประชุมใหญ่ ควรเลือกลับเฉพาะหัวหน้าพรรค แต่ตำแหน่งอื่นสามารถเลือกเปิดเผยได้ เพราะใช้เวลามาก
9.ส่วนกองทุนพัฒนาพรรคการเมือง ถ้าพรรคมีความผิดก็ลงโทษไปตามนั้น อย่าเอาระเบียบมาตัดสิทธิ์ไม่ให้รับเงินกองทุนพัฒนาพรรคการเมือง และเงินนี้ไม่ควรใช้ได้แค่สาขาพรรค แต่ควรใช้ได้กับสำนักงานใหญ่ของพรรคได้ด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews