คนไทยจากยูเครนกลุ่มที่ 5 อีก 45 คนเดินทางถึงไทยแล้ว ตรวจ RT-PCR ทันที ก่อนขึ้นรถบัส ไปรอฟังผลตรวจที่สถาบันบำราศนราดูร กต.เผยพาคนไทยกลับบ้านแล้ว 203 คน จาก 256 คน
กลุ่มคนไทยจากยูเครน เวลา 12.05 น. คนไทยชุดที่ 5 จำนวน 45 คน เดินทางด้วยเครื่องบินออกจากโปแลนด์มาถึงไทยโดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK384 โดยมีนายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ , นายนฤชัย นินนาท ผู้อำนวยการกองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ และคณะให้การต้อนรับ
ทันทีที่คนไทยเดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทุกคนได้รับการตรวจ RT-PCR ก่อนขึ้นรถบัส เพื่อเดินทางไปรอฟังผลตรวจที่สถาบันบำราศนราดูรหากผลการตรวจเชื้อเป็นลบสามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาได้และหลังจากนั้นอีก 5 วัน เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขแต่ละพื้นที่จะทำการตรวจเชื้อซ้ำอีกครั้ง ส่วนคนที่มีผลเป็นบวก จะเข้าสู่กระบวนการรักษาตัวที่สถาบันบำราศนราดูร
ทั้งนี้ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า การให้ความช่วยเหลือช่วยอพยพคนไทยกลับจากยูเครนเป็นด้วยความเรียบร้อยทั้ง 2 เที่ยวบิน และหลังจากนี้ได้รับรายงานว่า จะมีคนไทยกลับมาอีกชุดในวันจันทร์ ที่ 7 มีนาคม 2565 ประมาณ 20 กว่าคน แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดเที่ยวบิน
ด้านนายนฤชัย เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศ ให้การช่วยเหลือคนไทยในยูเครนกลับประเทศไทยแล้วรวม 203 คน จากทั้งหมด 256 คนและได้รับรายงานว่าทุกคนปลอดภัยดี ไม่มีคนได้ได้รับบาดเจ็บและขณะนี้ยังมีการช่วยเหลือออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีอีก 1 คน ที่อยู่ในเมืองเซเบโรโดเนส ที่ยังไม่สามารถช่วยเหลือออกมาได้ เนื่องจากสถานการณ์ยังรุนแรง หากพิจารณาแล้วว่ามีความปลอดภัยจะช่วยเหลือออกมาทันที ส่วนคนไทยที่ประสงค์อยู่กับครอบครัวที่ยูเครน มีประมาณ 25-26 คน ซึ่งสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ ยังประสานงานอยู่ตลอด หากเปลี่ยนใจที่จะกลับประเทศ สถานทูตฯ ยังพร้อมให้การช่วยเหลืออยู่ตลอด
อย่างไรก็ตาม คนไทยที่กลับมา บอกว่า สถานการณ์ที่ยูเครนยังรุนแรง ตลอดเวลาที่อยู่ที่นั่น ได้ยินเสียงระเบิดอยู่ตลอด และต้องหลบอยู่ชั้นใต้ดินประมาณเกือบ 1 สัปดาห์ เพื่อรอเวลาอพยพออกมา ซึ่งได้รับการติดต่อช่วยเหลือจากสถานทูตฯ เป็นอย่างดี ก่อนที่จะอพยพออกมาด้วยรถไฟไปยังเมืองลวิฟ ซึ่งเป็นศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือฯ ใช้เวลาประมาณ 9 ชั่วโมง และตอนนี้ รู้สึกโล่งใจ และดีใจมากที่ได้กลับประเทศไทย เพราะมีความปลอดภัยกว่าอยู่ที่ยูเครน จากนี้ไป คงต้องวางแผนเรื่องการทำงาน และการใช้ชีวิต
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews