“จุรินทร์” เชื่อ ยังไม่ยุบสภาฯ ตอนนี้ เพราะขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี ขณะ ปชป.เตรียมรับศึกเลือกตั้ง ยันส่งผู้สมัครสุโขทัยครบ 4 เขต
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมการส่งผู้สมัครลงชิงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสุโขทัย ซึ่งเพิ่มจากเดิมเป็น 4 เขต ว่า
ได้มีการเตรียมการพูดสมัครไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วในเบื้องต้น ซึ่งมีความชัดเจนและ 2 เขต เนื่องจากเป็นอดีตส.ส. ของพรรคประชาธิปัตย์ คือนายสัมพันธ์ ตั้งเบญจผล ลงเขต 2 /นายวิรัตน์ วิริยะพงษ์ ลงเขต 1 / ส่วนอีก 2 เขต ยังมีจำนวนผู้สมัครที่เกินกว่าจำนวนเขตอยู่จึงต้องขอเวลาในการกลั่นกรอง พร้อมกับระบุว่าการหาตัวผู้สมัครในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย ไม่มีปัญหาอะไร และมั่นใจว่าจะส่งครบทั้ง 4 เขต ซึ่งจะเป็นคนที่มีศักยภาพ และเหมาะสมที่สุด ส่วนอีก 2 เขตที่เหลือจำเป็นต้องทำโพลสำรวจความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่หรือไม่ ตนมองว่า การทำโพลขึ้นอยู่กับความเหมาะสม ไม่จำเป็นต้องทำทุกเขต หรือทุกจังหวัด
ส่วนการประชุมใหญ่ของพรรคที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 19-20 มีนาคมนี้ จะมีการวางยุทธศาสตร์พรรค เพื่อเตรียมการสู่การเลือกตั้งใหญ่อย่างไรนั้น นายจุรินทร์ ระบุว่า เป็นการสัมมนา ส.ส.กรรมการบริหารพรรค รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่จะแลกเปลี่ยน ความเห็นต่อสถานการณ์ หลังปิดสมัยประชุมสภาฯ ซึ่งคงมีการหารือลึกลงไปถึงรายละเอียดสถานการณ์ทางการเมืองปัจจุบันมากขึ้น เนื่องจากต้องมีการประเมินสถานการณ์ว่าจะต้องมีการเลือกตั้งเมื่อใด
แต่หากอยู่ครบเทอม ก็จะอยู่ในช่วงเดือนมีนาคมปี 2566 แต่หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง การเลือกตั้งอาจจะมาก่อนก็เป็นไปได้ เนื่องจากหลายฝ่ายก็คาดการณ์ตรงกัน รวมทั้งการเพิ่มเติมผู้สมัครที่มีความเหมาะสม ในบางเขตบางพื้นที่ รวมไปถึงการกำหนดนโยบายเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง ซึ่งถือได้ว่าผู้แทนราษฎรเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ และก็จะนำมารวมกับนักวิชาการในส่วนกลางของพรรคด้วย
สำหรับกระแสข่าวการยุบสภาฯ ก่อน วันที่ 22 พฤษภาคม จะส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่นั้น นายจุรินทร์ มองว่า เสถียรภาพของรัฐบาลขึ้นอยู่กับ 2 ส่วนในภาพหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลผสม จึงขึ้นอยู่กับการทำงานร่วมกันของฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ โดยเชื่อว่า ยังไม่มีสัญญาณการยุบสภาฯ ในช่วงปิดสมัยประชุม แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงและสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น โดยต้องติดตามในช่วงเปิดสมัยประชุมสภาอีกครั้งว่าจะเป็นอย่างไร พร้อมกับระบุว่า การยุบสภาฯ ก็ต้องกลับมาสู่จุดเดิม ที่เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ก็ขึ้นอยู่กับนายกฯ ด้วยว่าจะคิดอย่างไร
ส่วนที่มีการกล่าวอ้างว่าจะยุบสภาเพื่อหนีศึกซักฟอกนั้น ตนไม่สามารถตอบล่วงหน้าได้ เพราะไม่ทราบว่าฝ่ายค้านจะยื่นเมื่อใด เพียงแต่มีการโหมโรงว่าจะยื่น แต่จะยื่นตอนไหนอย่างไร
“จุรินทร์” ยอมรับ สถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย ส่งผลเงินเฟ้อ ไทยอาจชะลอนำเข้า-ส่งออก แต่ต้องประเมินใกล้ชิด ยันรัฐบาลควบคุมราคาสินค้าภายในประเทศให้กระทบผู้บริโภคน้อยที่สุด
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์นั้น ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ยอมรับการส่งออก-นำเข้า ที่อาจต้องชะลอไปบ้าง ซึ่งเหตุผลเกิดจากค่าเงินรูเบิลยังไม่เสถียร มีความผันผวน ของค่าเงิน ซึ่งต้องรอให้นิ่งก่อน ไม่เช่นนั้นการคำนวณต้นทุน-กำไร-ขาดทุนก็จะคลาดเคลื่อน ซึ่งเป็นเรื่องที่พ่อค้าทั่วโลกรับรู้อยู่แล้ว หากค่าเงินยังไม่เสถียร ก็ต้องรอพิจารณาต่อว่าเป็นอย่างไร
ส่วนผลกระทบทางอ้อมนั้น ก็จะต้องติดตามต่อไป แต่ที่เห็นชัดเจนที่สุด คือ ราคาน้ำมันที่ขึ้นไป 100 กว่าเหรียญแล้ว แน่นอนว่าจะส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อ ที่มาจากการคำนวณราคาสินค้าที่จำหน่ายจริงในตลาด โดยเฉพาะรายการสำคัญทางทฤษฎีที่นำมาเฉลี่ยกันแล้ว จะกลายมาเป็นตัวเลขเงินเฟ้อ ส่งผลราคาน้ำมันแพงอย่างแน่นอน แต่จะไปจบจุดใดก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของประเทศยูเครนและรัสเซีย ซึ่งทุกคนก็เป็นห่วงและคอยติดตามอยู่
ทั้งนี้ ในส่วนของรัฐบาลนั้น ทุกกระทรวงพยายามช่วยกัน เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อกับราคาสินค้าน้อยที่สุด ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง หากต้นทุนมีราคาสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ก็ต้องมาพิจารณาหาจุดสมดุลว่าอยู่ตรงไหน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ดูแลทุกฝ่าย ไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทั้งเกษตรกร ผู้ประกอบการ ผู้บริโภค ซึ่งเกษตรกรต้องการให้พืชเกษตรราคาดีที่สุด ส่วนผู้ประกอบการไม่ได้ต้องการเช่นนั้น เพราะต้นทุนจะสูงขึ้น ส่วนผู้บริโภค ก็จะได้สินค้าที่มีราคาแพงขึ้น ก็เป็นหน้าที่การบริหารจัดการของรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ แต่หากมีการค้ากำไรเกินควรก็ต้องดำเนินการตามกฏหมาย เพราะไม่ว่าจะสถานการณ์น้ำมันแพงหรือน้ำมันถูก การค้ากำไรเกินควรก็ถือว่าผิดกฎหมาย
ขณะเดียวกัน นายจุรินทร์ ย้ำว่ายังคงกำกับราคาสินค้า ภายในประเทศ 18 หมวดสำคัญ ยังไม่อนุญาตให้ขึ้นราคา ส่วนกรณีที่มีบางฝ่ายวิจารณ์การควบคุมราคาเครื่องใช้ไฟฟ้า
นายจุรินทร์ระบุว่า คนวิจารณ์ไม่เข้าใจ เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้ามีผลต่อการดำรงชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นหม้อหุงข้าว ตู้เย็น พัดลม เตารีด และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต หากกำกับราคาไว้ได้ก็จะมีผล ไม่ให้กระทบกับผู้บริโภค ซึ่งราคาเครื่องใช้ไฟฟ้าในขณะนี้ ราคาปรับลดลงมาเยอะอยู่ที่ร้อยละ 13 ถึง 70
ส่วนราคาเนื้อสัตว์ ขณะนี้เนื้อหมูยังอยู่ที่ราคา 128 บาท แต่ราคาเฉลี่ยทั่วประเทศก็ต่ำกว่า 150 บาท ต่อเนื่องมาเป็นกว่าสัปดาห์แล้ว ขณะราคาไข่ไก่ไม่เกินใบละ 3.50 บาท สำหรับเบอร์ 3 ยืนยันว่า ทางกระทรวงพาณิชย์ยังคงกำกับราคาสินค้าได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews