ครม.เห็นชอบขยายเวลาดำเนินโครงการสนับสนุนเอสเอ็มอีมุ่งสู่อุตสาหกรรมสีเขียวโดยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีคาร์บอนต่ำออกไปอีก 18 เดือน
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบขยายระยะเวลาดำเนินโครงการสนับสนุนผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมมุ่งสู่อุตสาหกรรมสีเขียวโดยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ ออกไปถึงวันที่ 30มิ.ย66 หลังจากสิ้นสุดโครงการในวันที่ 31 ธ.ค.64 หรือขยายระยะเวลาออกไปอีก 18 เดือน
โดยโครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถเพื่อยกระดับการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมในประเทศไทย ปรับปรุงความสามารถในการแข่งขันและมุ่งสู่อุตสาหกรรมสีเขียว(Green Industry) เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ลดต้นทุนการผลิต ส่งเสริมธุรกิจอุตสาหกรรมให้ดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงาน ตลอดจนลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศในระยะยาวต่อไป
สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการฯที่ผ่านมา มาจากเงินทุนร่วมระหว่างรัฐบาลไทยและกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก(GEF) โดยGEF สนับสนุนเงินจำนวน 1.88 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ฝ่ายไทยร่วมสมทบงบดำเนินการที่อยู่ในรูปแบบเงินสด และไม่อยู่ในรูปแบบเงินสดจากกระทรวงอุตสาหกรรมจำนวน 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือ ธพว. ในฐานะหน่วยงานร่วมดำเนินการสำหรับเงินกู้สำหรับเอสเอ็มอีที่เข้าร่วมโครงการ หรือที่สนใจกู้เพี่อใช้ในการปรับปรุงเครื่องจักรอุปกรณ์จำนวน 7.36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ที่ผ่านมาโครงการยังมีกิจกรรมที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เช่น การปรับปรุงเครื่องจักรอุปกรณ์ของเอสเอ็มอี เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยได้ใช้เงินที่ได้รับการสนับสนุนจากGEF ไปจำนวน 0.78 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คงเหลือ 1.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในส่วนของงบดำเนินการที่อยู่ในรูปแบบเงินสดและที่ไม่ใช่เงินสดจากกระทรวงอุตสาหกรรม 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และวงเงินสินเชื่อสำหรับเอสเอ็มอีจาก ธพว.จำนวน 7.36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กระทรวงอุตสาหกรรมแจ้งว่า ยังไม่ได้มีการเบิกจ่าย ดังนั้นจึงต้องขอขยายระยะเวลาโครงการฯออกไปอีก 18 เดือน สิ้นสุดโครงการวันที่ 30 มิ.ย.66 เพื่อให้สามารถดำเนินโครงการฯได้สำเร็จและบรรลุวัตถุประสงค์
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews