“ชลน่าน” รับมีคนความพยามคว่ำก.ม.ลูก เพื่อให้เกิดเดดล็อค นำไปสู่การแก้รธน.เป็นบัตรใบเดียว โวยหากถูกคว่ำวาระ 3 เหมือนฟ้าผ่า
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า มีเสียงจากคณะกรรมาธิการฝั่งพรรคร่วมรัฐบาลมาพูดให้ฟังว่า เขามีความต้องการที่จะได้รัฐธรรมนูญใหม่เพื่อให้ได้บัตรใบเดียว โดยมีความพยายามใช้กลไกในกมธ.พิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. คว่ำกฎหมายลูกให้เกิดเดดล็อคเพื่อให้เกิดการแก้รัฐธรรมนูญใหม่ นำไปสู่บัตรใบเดียว
แต่จะจริงหรือไม่ตนไม่ทราบ นี่คือสิ่งที่มีคนเล่าให้ตนฟัง แต่ถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ ตนคิดคิดว่านี่คือเงื่อนที่จะทำให้เกิดวิกฤติทางการเมือง เพราะรัฐบาลส่งกฎหมายลูกเข้ามาสู่สภาฯ โดยมีคณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ ซึ่งหากไม่ผ่านสภาฯ ก็ควรคิดว่าคุณต้องรับผิดชอบอย่างไรแล้วถามว่าประชาชนจะยอมให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น หรือวันนี้เขาพยายามทุกอย่างเพื่อสืบทอดอำนาจใช้กลไกทุกอย่างเพื่อกำจัดผู้เห็นต่างทางการเมือง
ซึ่งมองเจตนาในการเล่าถึงแนวความคิดเรื่องการคว่ำกฎหมายลูกในวาระ 3 เพื่อเปิดทางให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่อย่างไร นพ.ชลน่าน ระบุว่า ถามว่าเขาจะคว่ำหรือไม่ตนไม่ได้เป็นผู้ตอบว่าจะใช้กลไหนอย่างไร แต่วาระแรก และวาระ 2 เห็นชอบ แล้วถ้ามีมติคว่ำในวาระ 3 เหมือนฟ้าผ่า ไม่มีที่มาที่ไปจะอธิบายต่อสังคมนี้ได้อย่างไรแปลว่าสังคมนี้เริ่มบิดเบี้ยว เริ่มใช้อำนาจที่ไม่ชอบในการก้าวก่าย แทรกแทรง
ตนไม่เชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์อย่างนั้นขึ้น เพราะจะกลายเป็นการสร้างวิกฤติใหม่ซึ่งวิกฤตินี้เหมือนประชาชนถูกตบหน้า เหมือนประชาชนไม่มีความหมายอยากทำอะไรก็ทำ อยากแก้รัฐธรรมนูญเป็นบัตรใบเดียวใช่ไหม แล้วถ้าทำอย่างนั้น ทำเพื่ออะไรก็เป็นเรื่องที่ประชาชนต้องเป็นผู้ตัดสินเอง
นพ.ชลน่าน ยังกล่าวถึงเรื่องแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ว่า ยังไม่ได้มีการวางตัว ส่วนเมื่อวานที่มีผู้สื่อข่าวถามชื่อ “อุ๋งอิ๋ง” แพทองธาร ชินวัตร
เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคหรือไม่ ตัวเองก็ตอบตามเหตุผล ไม่ได้มีการปิดบัง
ซึ่งได้ตอบไปว่าหากประชาชนสนับสนุนก็มีสิทธิที่จะเป็นพรรคเพื่อไทยพร้อมจะเสนอ เพราะประชาชนสนับสนุน ตนได้ตอบไปแค่นี้ ส่วนอุ๋งอิ๋งเป็น 1 ใน 3 ของแคนดิเดตนายกของพรรคหรือไม่ ตนเองขอไม่ตอบซึ่งเป็นกลไกของการพิจารณาอยู่แล้วว่าจะต้องพิจารณาอย่างไร แต่จะเป็น1 ใน 3 หรือไม่ตอบไม่ได้ ไม่ขอตอบ
นอกจากนั้นยังกล่าวถึงปรากฏการณ์พรรคร่วมรัฐบาลทั้งพรรคใหญ่และเล็กต่างนัดกินข้าวกันบ่อยขึ้นช่วงนี้ ว่า เป็นปรากฏการณ์ที่ธรรมดามาก เพราะภาวะวิกฤติการเมืองแบบนี้ กลไกหรือวิธีการอะไรที่สามารถทำให้เขาบอกตัวเองว่ายังมีความมั่นใจและมั่นคงอยู่ ก็ต้องใช้ทุกอย่าง
ส่วนท่าทีของพรรคเล็กที่เริ่มออกมาเคลื่อนไหวหลังนายกฯ นัดพรรคใหญ่ทานข้าว นพ.ชลน่าน ระบุว่า เมื่อพรรคใหญ่นัด พรรคเล็กจึงต้องแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่า ก็มีของ และมีของที่สำคัญ มีอำนาจต่อรองที่สูงมากในขณะนี้เพราะ 30 เสียงของพรรคเล็กสำคัญทำให้แปรปรวนได้ เพราะหาก 30 เสียงนี้โยกไปด้านใดด้านหนึ่ง ก็จะมีผลทันที เช่น การพิจารณางบประมาณวาระ 1 ที่จะเข้าช่วงต้นเดือน มิ.ย.นี้ ถ้านายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายถูกไม่ไว้วางใจ ก็ต้องพ้นจากตำแหน่งไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ
ส่วนฝ่ายค้านจะมีการนัดพรรคเล็กทานข้าวหรือไม่ นพ.ชลน่าน ระบุว่า ถ้าเราสามารถชวนได้ เราก็อยากชวนพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค เพราะในวิกฤติการเมืองแบบนี้ ทุกพรรคต้องหันมามองแล้วว่า อะไรคือสิ่งสำคัญที่สุด ถ้าทุกคนมองว่าประเทศสำคัญกว่าคน สำคัญกว่านายกฯ สำคัญกว่ารัฐมนตรีที่เป็นอยู่ ประชาชนสำคัญกว่า เขาคิด
ซึ่งตนเชื่อมั่นว่า เขาคิด และเป็นปีสุดท้ายวิถีทางการเมือง พรรคการเมืองต้องพยายามรักษาฐานะตัวเองให้ดีที่สุด เพราะเขามาจากประชาชน อะไรที่เป็นทางเลือกดีที่สุด การที่เขาจะอยู่กับผีเน่า กับถ้าแยกตัวออกมาเป็นโลงดีๆ อยู่ตรงนั้นเป็นโลงผุจนกระทั่งต้องเผาไปพร้อมกัน เขาสามารถแยกตัวในขณะเป็นโลกดีๆอยู่ ปล่อยให้ผีเน่าไป เขาก็รอด ประชาชนก็ยังโอบอุ้มเขาอยู่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
