“วัชรพงศ์” โต้”วาโย” ปมอัดประสิทธิภาพ “ฟาวิพิราเวียร์”
ขออยู่ทีมคนทำงาน ดีกว่าร่วมทัพมนุษย์ดีแต่พูด ! “วัชรพงศ์” โต้”วาโย” ปมอัดประสิทธิภาพ “ฟาวิพิราเวียร์” เผย สธ.ไทยสั่งยาทุกชนิดที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ แต่ต้องคำนึงเรื่องบริหารจัดการด้วย
นายวัชรพงศ์ คูวิจิตสุวรรณ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวตอบโต้ปม นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่ออกมาวิพากษ์ วิจารณ์ประสิทธิภาพของยาฟาวิพิราเวียร์ ทั้งให้รัฐมนตรี สธ.ไปหาข้อมูลให้รอบด้านว่า เรื่องนี้อธิบายไม่ยาก ประเทศไทย มีคนอยู่ 2 ประเภท หนึ่งคือคนทำงาน และอีกประเภทคือพวกที่ดีแต่พูด ดีแต่วิจารณ์ พอดี ตนอยู่กับคนกลุ่มแรก เลือกอยู่กับคนทำงานดีกว่า
ประเทศไทย กว่าจะได้ยาฟาวิพิราเวียร์มาใช้ ไปจนถึงผลิตได้เอง ก็เพราะคนทำงานช่วยกันทำให้เกิดขึ้น และการที่เราเลือกใช้ยานี้ เป็นยาหลัก ก็ไม่ได้ตัดสินใจโดยฉับพลันจากใคร คนใด คนหนึ่ง แต่มาจากการพิจารณาอย่างรอบด้านที่สุดจากผู้ทรงคุณวุฒิ และอาจารย์ แพทย์ ทั้งหลาย เป็นคณาจารย์เหล่านี้ ที่อยู่เบื้องหลังการประคองระบบสาธารณสุขไทย ให้ติดกลุ่มท็อปเท็นของโลก
ในวันที่นายวาโย ออกมาด้อยค่ายาฟาวิพิราเวียร์ นายวาโยอาจจะลืมไปว่า ที่ผ่านมา ยาตัวนี้เอง ที่มีประสิทธิภาพในการลดอัตราการเสียชีวิตของไทย ให้ต่ำมากๆ เมื่อเทียบกับทั่วโลก ล่าสุด ศูนย์วิจัยทางคลินิก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ สถาบันบำราศนราดูร กรมควบคุมโรค และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
โดยแบ่งศึกษาในผู้ป่วย 2 กลุ่ม กลุ่มแรก 62 ราย ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ตามสูตร คือ 1,800 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้งในวันแรก และ 800 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง อีก 4 วัน ส่วนกลุ่มที่สอง 31 ราย ไม่ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ ติดตามจากการประเมินอาการของผู้ป่วยและวัดปริมาณไวรัสในโพรงจมูก พบว่า ภายใน 14 วัน กลุ่มที่ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์มีอาการดีขึ้น 79% ส่วนกลุ่มที่ไม่ได้รับยาอาการดีขึ้น 32.3% โดยผู้ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์มีอาการดีขึ้นตั้งแต่วันที่ 2 ของการรักษา และในวันที่ 13 และ 28 ของการรักษาจะมีปริมาณไวรัสต่ำกว่าผู้ที่ไม่ได้รับยา แต่มีข้อจำกัด คือ หากรักษาช้าและอาการค่อนข้างหนัก ประสิทธิภาพของยาจะไม่ดีนัก
ข้อมูลมีความชัดเจน ส่วนที่เรียกร้องกันว่าให้เอายาตัวอื่นเข้ามา ขอย้ำว่า ทางกระทรวงเรานำเข้ามาหมด ที่มั่นใจในเรื่องประสิทธิภาพ และความปลอดภัย ล่าสุด ยาโมลนูพิราเวียร์ เรานำเข้ามา 2 ล้านเม็ด หรือ 5 หมื่นคอร์สการรักษา กระทรวงฯ ไม่ได้ยึดติดกับยาตัวไหนเป็นพิเศษ แต่เราต้องดูเรื่องบริหารจัดการ ฟาวิพิราเวียร์ เป็นยาที่ผลิตได้เอง มีเพียงพอต่อความต้องการ ช่วยลดอัตราความสูญเสียอันนี้ คือเรื่องสำคัญ เรารอไม่ได้
ชั่วโมงนี้ สต็อกยาต้องพร้อม มัวแต่เลือก อาจไม่ทันการณ์ “ขอเถอะ พวกเก่งแต่ปาก สักแต่พูด กรุณาอยู่กันเงียบๆ อย่าเพิ่งมาหิวแสงหาซีนกันตอนนี้ประเทศไทย ต้องการความร่วมแรงร่วมใจ จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน เสนอแนะได้ แต่อย่าใช้อคติการเมืองมานำ”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews