5 ว่าที่ผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม. ร่วมวงเสวนา เลือกตั้งผู้ว่าฯ แก้ปัญหาคนกรุง ถกปัญหา ฝนตก รถติด น้ำท่วม ลดเหลื่อมล้ำ สร้างความเท่าเทียม
เวทีเสวนา เลือกตั้งผู้ว่าฯ แก้ปัญหาคนกรุง ในหัวข้อ กทม.ชีวิตดีๆ ที่ลงตัว มีว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ทั้งนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้สมัครอิสระ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัครสมัครพรรคประชาธิปัตย์ นายวิโรจน์ ลักขณาอศิศร ว่าที่ผู้สมัคร พรรคก้าวไกล น.ส.รสนา โตสิตระกูล ว่าที่ผู้สมัครอิสระ นายสกลธี ภัททิยกุล ว่าที่ผู้สมัครอิสระ เข้าร่วมเสวนา
ประเด็นที่ถูกตั้งคำถาม คือ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. จะมีแนวคิด หรือแนวนโยบาย ในการแก้ไขปัญหา การจราจรติดขัด ระบบการขนส่งที่ไม่เชื่อมโยง ในกรุงเทพ ได้อย่างไร โดยเฉพาะ ในช่วงเวลาเร่งด่วน รวมทั้ง ปัญหาน้ำท่วม กทม. ที่มีความพยายาม แก้ไข อยู่ตลอดเวลา แต่ก็ยังแก้ไขไม่ได้ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องสิ่งแวดล้อม พื้นที่สีเขียวในเมืองหลวง ว่าที่ผู้สมัคร มีแนวนโยบายอย่างไร ในการสร้างพื้นที่เหล่านี้ เช่นเดียวกับการดูแลคุณภาพชีวิต ของคนกรุงเทพฯ ว่าที่ผู้สมัคร จะดูแล อย่างไร ให้คนในมหานครมีความเท่าเทียมกัน
นายสุชัชวีร์ ยอมรับว่า การดูแลคนนับ10 ล้านคนไม่ใช่เรื่องง่าย พร้อมจะผลักดัน ให้ กทม. เป็นเป็นเมือง สวัสดิการฟรี อย่างมีคุณภาพ พร้อมนำเสนอแนวทางลดภาระค่าครองชีพ ของคนกรุงเทพฯ ด้วยการ เปลี่ยนรถโดยสารสาธารณะให้เป็นรถพลังงานไฟฟ้า ลดระยะทางวิ่งรถให้สั้นลง เพื่อประหยัดพลังงาน จะทำให้ค่าโดยสารลดลงตามไปด้วย
ส่วนปัญหาน้ำท่วม หากใช้ระบบระบายน้ำอัตโนมัติ จะทำงานการจัดการ กับน้ำขึ้นน้ำลง ได้อย่างเป็นระบบ และทันกับสถานการณ์ ส่วนการบริหาร กทม.ต้องมีข้อมูลที่ถูกต้อง มีเป้าหมายที่ชัดเจน ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย
นายวิโรจน์ ย้ำว่า หากตนเองได้เป็น ผู้ว่าฯ กทม. สิ่งแรกที่จะทำคือเปิดสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่มีปัญหา จนถึงทุกวันนี้ ส่วนปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ ต้องแก้ไขที่ต้นตอของปัญหา โดยเฉพาะ ความเหลื่อมล้ำ นายทุนครอบงำ เอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้อง และต้องไม่มุ่งแต่จะบริหารงานอย่างเดียว ผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ ต้องแก้ไข สร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้น ในกรุงเทพฯ บริการขนส่งสาธารณะ กทม. เป็นหนี้จากการลงทุนได้ เพื่อให้เกิดการบริการที่ดี ที่เท่าเทียมและทั่วถึง กทม. สำหรับปัญหาน้ำท่วม เป็นปัญหาสะสมมานาน กทม. เทงบประมาณ ไปกับการปรับปรุงทัศนียภาพ มากกว่า การซ่อมบำรุงระบบระบายน้ำ
ด้านนายสกลธี เชื่อว่า กทม. ดีกว่าทุกวันนี้ได้ หากนำ เทคโนโลยี และ การบริหารจัดการที่ดี เข้ามาแก้ไขปัญหา เช่นการแก้ ปัญหาการจราจร ด้วยการนำระบบ ล้อ ราง เรือ มาใช้ เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงการขนส่ง อำนวยความสะดวกให้กับคนกรุงเทพฯ ให้ได้มากที่สุด เพื่อเพิ่มทางเลือกให้คนหันมาใช้รถสาธารณะมากขึ้น
ส่วนน้ำท่วมต้องยอมรับความจริงว่า ฝนตกเมื่อไหร่น้ำก็จะท่วม ซึ่งทุกวันนี้ กทม. มีระบบระบายน้ำอยู่แล้ว เพียงแค่ต้องมีความตั้งใจให้การ ขจัดสิ่งกีดขวาง ที่จะทำให้น้ำระบายช้า ขณะเดียวกัน กทม. ยุคใหม่ ต้องหาเงินได้ด้วยตัวเอง จากสินทรัพย์ ที่มีอยู่ ไม่ใช่ รอรับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลเพียงอย่างเดียว
ขณะน.ส.รสนา เน้นย้ำนโยบายลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ให้คนกรุงเทพฯ ส่วนการแก้ปัญหาต่างๆ ต้องศึกษาโครงสร้างผังเมือง ทั้งระบบ ปัญหาน้ำท่วมมีสะสมมายาวนาน วิธีที่ง่ายที่สุด หากตนเองได้เป็น ผู้ว่าฯ กทม. จะทำการ ลอกคลองทุกสาย ช่วยเร่งระบายน้ำท่วม ปรับพื้นที่สนับสนุนให้คนกรุงเทพ ปลูกผักอินทรีย์ เพื่อลดรายจ่าย
ส่วนนายชัชชาติ ยอมรับว่า การลงสมัครอิสระมีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่ทำให้เห็นว่ามีคนอีกมากมาย ที่อยากทำงานเมือง ที่ไม่อยากยุ่งการเมือง สำหรับการแก้ปัญหา คมนาคมขนส่งใน กทม. ต้องมีระบบการเชื่อมโยงที่ครบถ้วน และทั่วถึง ให้คน กทม. เดินทางมาถึง ระบบขนส่งหลัก ได้ง่าย รวดเร็ว และ สะดวก การแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ขุดลอกคูคลอง ระบบระบายน้ำ ปั้มน้ำ ต้องพร้อมใช้งานรองรับ ทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น คุณภาพชีวิต คน กทม.ต้องปลอดภัย เช่น ทางม้าลาย ต้องชัดเจน มีสัญญาณไฟ สน้างความมั่นใจให้คนข้ามถนน ระบบสาธารณสุข ในชุมชนต้องมีคุณภาพ ลดความแออัดในโรงพยาบาลใหญ่ ในเมือง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews