ทีมเศรษฐกิจ แถลงข่าวมาตรการช่วยเหลือประชาชนจากสถานการณ์ขัดแย้งยูเครน – รัสเซีย
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและส่วนที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าวมาตรการช่วยเหลือประชาชนจากสถานการณ์ขัดแย้งยูเครน – รัสเซีย
โดยนายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า วิฤกตินี้ยังไม่หมดโดยรัฐบาลได้ทำสุดความสามารถเพื่อให้ผ่านพ้นสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 จนนำไปสู่การเปิดประเทศ แต่เมื่อช่วงปลายปีมีสัญญาณความขัดแย้งยูเครน-รัสเซีย ทำให้ราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้น มีการกีดกันด้านการค้า มีการแบ่งขั้วอำนาจ โดยนายสุพัฒนพงษ์ มองว่า สถานการณ์นี้จะยังยืดเยื้อไม่จบโดยเร็ว เกิดวิกฤติซ้อนวิกฤต พร้อมเฝ้าติดตามสถานการณ์ต่ออีก 3 เดือน โดยการออก 10 มาตรการช่วยเหลือประชาชนในแต่ละกลุ่ม ให้สอดคล้องสถานการณ์เพื่อประคับประคองเสถียรภาพด้านเงินการคลัง เน้นดูแลช่วยผู้มีรายน้อย และผู้ใช้แรงงาน
ด้านนายอาคม เติมพิทยา ไพสิฐรัฐ มนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ย้ำว่า เรายังพยายามรักษาสมดุลให้เศรษฐกิจเดินหน้าควบคู่กับการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิค 19 ซึ่งในปี 2564 การค้าระหว่างประเทศไม่ว่าจะเป็นการนำเข้าและการส่งออก ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะปี 2563 ต่อเนื่องปี 2564 ซึ่งปีนี้คาดว่า การปรับตัวด้านเศรษฐกิจน่าจะขยายตัว 5-10% เปิดการขนส่งสินค้าข้ามแดนบริเวณประเทศเพื่อนบ้านไม่ได้รับผลกระทบ
นายอาคม ระบุว่า เสถียรภาพมีอยู่ 2 ด้าน คือด้านการคลังและการเงิน คือ รายได้ของภาครัฐโดยเฉพาะส่วนราชการ ซึ่งดูได้จากฐานะทางการคลังของรัฐบาล ซึ่ง 5 เดือนแรกของปี (ต.ค.64-ก.พ.65) รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลัง 901,414 ล้านบาท มีการเบิกจ่ายงบประมาณทั้งสิ้น 1,429,194 ล้านบาท โดยรัฐบาลได้กู้เงินชดเชยการขาดดุล 394,465 ล้านบาท ส่งผลให้มีเงินคงคลังมีอยู่ 418,588 ล้านบาท แต่ยืนยันว่า เงินคงคลังที่เหลือยังมีเพียงพอในการใช้จ่ายพร้อมมั่นใจว่าการประมาณการรายได้จากการจัดเก็บภาษีจะเป็นไปตามเป้า
ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในช่วง 2เดือนแรกของปี2565 สูงขึ้นจากราคาพลังงาน ที่มีมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ ทำให้อัตราเงินเฟ้อไม่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วมากนัก ส่วนอัตราเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ยังอยู่ในระดับสูง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนทางเศรษฐกิจโลกได้ สำหรับสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อGDP เดือนม.ค.65 อยู่ที่ร้อยละ59.9 ซึ่งยังอยถ่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการได้ และตามกรอบวินัยการเงินการคลังที่กำหนดไว้ร้อยละ 70 โดยหนี้สาธารณะส่วนใหญ่เป็นสกุลเงินบาทและเป็นหนี้สาธารณะระยะยาว
ส่วนการว่างงานไตรมาส 4 ปี 2564 ปรับตัวลดลงร้อยละ 1.6 จากการฟื้นตัว เศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องตากสถานการณ์โควิด-19 และขณะนี้มี ไทยมีทุนสำรองระหว่างประเทศ 2.4 แสนล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจได้ และตั้งเป้าว่าจะจัดเก็บภาษีรายได้ได้มากขึ้นจากธุรกิจดิจิทัล
ด้านปลัดกระทรวงพลังงานชี้แจงสถานการณ์พลังงานว่าประเทศไทยมีการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไปแช้ว 30,000 ล้านบาท และจะพยายามตรึงราคาไม่ให้เกิน 30 บาท จนถึง 30 เมษายนและหลังจากนั้น จะช่วยออกให้ครึ่งหนึ่งของราคาหากเกิน 30 บาท ซึ่งกอลทุนน้ำมันเขื้อเพลิงจะกู้ยืมเงินเข้ามา และจะยกเลิกการชดเชยราคาน้ำมันดีเซลเกรดพรีเมี่ยมเพราะมีกำลังซื้อ ซึ่งมีปริมาณอยู่ที่ 1.4 ล้านลิตรต่อวัน ส่วนแนวทางการบริหารราคาก๊าซแอลพีจี ตรึงราคามาแล้ว 2 ปีจากถังละ 363 บาทเหลือถังละ 318 บาทตรึง ซึ่งในปัจจุบัน ราคาอยู่ที่ 463 โดยใช้เงินไปแล้ว 28,800 ล้านบาท ซึ่งวันที่ 1 เมษายนนี้จะขอปรับขึ้น 333 บาทต่อถัง ส่วนในเดือนพฤษภาคมปรับเป็น 363 บาทต่อถัง แต่สำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้ส่วนลดเดือนละ 33 บาท โดยใช้งบกลาง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews