“สาธิต” ไม่รู้ กมธ.ฝ่ายรัฐค้านเบอร์เดียวทั่วประเทศ ยัน ปชป.หนุนเบอร์เดียวกันทั่วประเทศ ทำพรรคการเมืองเกิดความเข้มแข็ง
นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ฉบับที่ .. พ.ศ…กล่าวถึงกระแสข่าวที่กรรมาธิการฝ่ายรัฐบาลไม่ต้องการหมายเลขผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต และ แบบบัญชีรายชื่อ ให้เป็นหมายเลขเดียวกันเนื่องจากเกรงว่าพรรคเพื่อไทยจะแลนด์สไลด์ ว่า
ในส่วนของรัฐบาลไม่มั่นใจว่ามีความต้องการเป็นอย่างไร แต่ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์มีจุดยืนตามมติพรรคคือที่ต้องการให้หมายเลขผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต และ แบบบัญชีรายชื่อ เป็นหมายเลขเดียวกันเพื่อต้องการให้พรรคการเมืองเกิดความเข้มแข็ง โดยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขจะเกิดความเข้มแข็งได้พรรคการเมืองจะต้องมีความเข้มแข็ง เพื่อให้ประชาชนมีความเข้าใจในการเลือกพรรคการเมืองและ ส.ส. และมีสิทธิที่จะเลือกต่างกันก็ได้ที่สำคัญในยุคนี้ต้องทำให้ประชาชนแสดงความประสงค์ในการเลือกตั้งให้มากที่สุด หรือให้มีบัตรเสียให้น้อยที่สุด ถ้าออกแบบและแก้กฎหมายก็ต้องให้ประชาชนในทุกชนชั้นมีการแสดงเจตนาที่ตรงจุดมากที่สุด ดังนั้นการออกแบบกติกาเลือกตั้งจึงต้องมีการชัดเจน และมีบัตรเสียน้องที่สุด
ส่วนบัตรเลือกตั้ง2ใบเบอร์เดียวกัน จะทำให้ประชาชนสะดวกในการใช้สิทธิ์กว่าบัตรคนละเบอร์หรือไม่นั้น ตนคิดว่าเป็นเช่นนั้น เพราะจากประสบการณ์ถ้าคนละเบอร์เวลาลงพื้นที่ก็จะสร้างความสับสนให้กับผู้เลือกและผู้หาเสียงด้วย ถ้าเบอร์พรรคไม่ตรงกับเบอร์ส.ส. ส.ส.ในพื้นที่ก็ไม่หาเสียงให้พรรคด้วย ในส่วนนี้จึงเป็นปัญหาที่พรรคประชาธิปัตย์นำมาหารือกันอยู่บ่อยครั้ง
สำหรับการประชุมกรรมาธิการในวันนี้เป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นให้ได้มากที่สุด ทั้งประเด็นข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง ความเห็นของแต่ละฝ่าย ก็เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะโดยหลักสำคัญในวันนี้ที่ประชุมจะต้องเดินหน้าให้แล้วเสร็จให้ได้ในมาตรา 90 หลายคนกังวลในข้อกฎหมาย เราก็สามารถออกแบบในการแก้กฎหมายไม่ให้ขัดต่อรัฐธรรมนูญได้ซึ่งในชั้นกรรมาธิการเรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายในการเขียนและแก้ให้ เกิดความถูกต้องตามเจตนารมณ์
ทั้งนี้การแก้กฎหมายจะเป็นประโยชน์กับพรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้น มองว่าตาม หลักการแก้รัฐธรรมนูญคือจะต้องทำให้พรรคเข้มแข็งและสร้างความสะดวกให้กับประชาชนถ้าการแก้กฎหมายเพื่อกันหรือเป็นประโยชน์กับใครสักคน กติกาก็จะไม่ได้รับความเชื่อมั่น ไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งจะส่งผลต่อการเลือกตั้งหากใครแพ้หรือชนะ จะสามารถหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาสร้างความขัดแย้งได้ ฉะนั้นการแก้กฎหมายครั้งนี้ต้องมองว่าการแก้เพื่ออะไร ถ้าใครแก้เพื่อตัวเองหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ก็อย่าหวังว่าจะได้เสียงจากประชาชน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews