ทีมผู้สมัครว่าที่ผู้ว่ากทม.ไทยสร้างไทย เดินสวนลุม ฟังเสียงผู้ใช้บริการ ประกาศเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ชาวกรุง เตรียมประสานเอกชน ดึงพื้นที่ร้างไม่ใช้ประโยชน์ พัฒนาเป็นสวนสาธารณะใกล้บ้าน
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วยน.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หมายเลข 11, ดร.เมลิสา มหาพล ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร หมายเลข 4 เขตปทุมวัน พรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่พบประชาชนที่มาออกกำลังกาย และพักผ่อนในช่วงเช้าที่สวนลุมพินี
โดยมีการพูดคุยถึงภาพรวม ของภูมิทัศน์และพื้นที่ทางกายภาพต่างๆภายในสวนลุมพินี ทั้งงานก่อสร้างทางจักรยาน งานก่อสร้างอาคาร งานปรับปรุงอาคาร และการปรับปรุงสะพานข้ามคูน้ำภายในสวน รวมถึงระบบไฟฟ้าส่องสว่างต่างๆ และการฟื้นฟูสภาพต้นไม้ขนาดใหญ่ ว่ามีส่วนใดหรือพื้นที่ใด ภายในสวนลุมพินีที่ต้องปรับปรุงแก้ไข หรือไม่ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่สีเขียวแห่งนี้อย่างคุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุด
ซึ่งหลายคนสะท้อนความคิดเห็น ว่า สภาพแวดล้อมภายในสวนสาธารณะแห่งนี้ ถือว่าได้มาตรฐาน และได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง แต่สวนสาธารณะที่ได้มาตรฐานเช่นนี้ ยังมีไม่เพียงพอต่อความต้องการของชาวกรุงเทพฯ หากเป็นไปได้ ต้องการเห็นพื้นที่สีเขียว โดยเฉพาะสวนสาธารณะที่ได้มาตรฐานและสามารถใช้ประโยชน์ได้จริง สามารถรองรับพี่น้องประชาชนได้อย่างเพียงพอ
ซึ่งจากความต้องการดังกล่าว น.ต.ศิธา ระบุว่า พรรคไทยสร้างไทย มีนโยบายเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้คนกรุงเทพฯสามารถใช้งานได้จริง โดยภายใน 4 ปี จะเพิ่มพื้นที่สีเขียวที่ประชาชนสามารถเข้าถึงและใช้ได้ โดยตั้งเป้าหมายไว้ที่ 9 ตารางเมตรต่อคน ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO และโครงการต่างๆของกรุงเทพฯต้องเป็นโครงการสีเขียว เช่นตึกรักษ์โลก หลังคาเขียว ถนนเขียว และสวนคนเมือง
ซึ่งพื้นที่สีเขียวในรูปแบบสวนสาธารณะ และสวนหย่อม มีรวมกันมากกว่า 7,610 แห่ง คิดเป็นพื้นที่ประมาณ 22,098 ไร่ โดยอัตราพื้นที่สีเขียวต่อประชากรเฉลี่ย 6.97 ตารางเมตรต่อคน แต่สภาพความเป็นจริงพบว่าพื้นที่สีเขียวที่ประชาชนสามารถใช้งานได้จริง มีเพียง0.92 ตารางเมตรต่อคน ซึ่งถือว่าไม่เพียงพอต่อความต้องการ
ดังนั้นพรรคไทยสร้างไทยจึงมีแนวคิด ที่จะเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้เป็นไปตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก โดยนำที่รกร้างว่างเปล่า หรือที่ของเอกชน ที่ยังไม่ได้มีโครงการหรือแนวคิดจะพัฒนาที่ดิน มาใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยเข้าไปเจรจากับเอกชน เพื่อเช่าที่ดินในระยะยาวและนำมาต่อยอดพัฒนาเป็นสวนสาธารณะเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้คนกรุงเทพฯได้ใช้งาน
โดยน.ต.ศิธา ระบุว่า เราเคยนำพื้นที่รกร้างว่างเปล่าในเขตสนามบิน มาทำเป็นสนามจักรยาน ทำสวนพักผ่อนหย่อนใจ ทำพื้นที่สันนทนาการให้กับพี่น้องประชาชนรอบสนามบินสุวรรณภูมิมาแล้ว ในปีหนึ่งมีคนมาใช้บริการเกินล้านครั้ง และได้พัฒนามาจนถึงปัจจุบัน กลายเป็นสนามจักรยานที่ดีอันดับต้นๆของโลก ในส่วนของ กทม. พื้นที่ที่จะนำมาใช้
เริ่มจากพื้นที่ในส่วนรับผิดชอบของ กทม.เอง พื้นที่ของหน่วยงานราชการอื่นๆ, พื้นที่ของรัฐวิสาหกิจ และพื้นที่ของเอกชน ซึ่งในปัจจุบันพื้นที่ของเอกชนจะต้องเสียภาษีสำหรับที่ดินที่ยังไม่ได้นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เอกชนจึงใช้วิธีปลูกพืชเพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นพื้นที่เกษตรกรรม เราจะเสนอให้ปรับแก้กฎหมายโดยสามารถนำพื้นที่มาใช้เพื่อสาธารณะประโยชน์โดยนำมาลดหย่อนภาษีได้เช่นกันกลับ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews