“ชัชชาติ” ชี้ กทม.ต้องแก้ปัญหาขยะอันดับแรก
“ชัชชาติ” ชี้ กทม.ต้องแก้ปัญหาเรื่องขยะอันดับแรก ใช้งบสูงถึงปีละ1หมื่นล้าน ต้องสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนหันมาแยกขยะ
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 8 สังกัดอิสระ เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงแนวนโยบาย การจัดการปัญหาขยะในกรุงเทพมหานครว่า เป็นเรื่องใหญ่ เพราะต้องใช้งบประมาณ ปีละประมาณ 10,000 ล้านบาท จากงบประมาณทั้งหมด 80,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับการศึกษาใช้ประมาณ 4,000 ล้านบาท ระบบสาธารณสุข 6,000 ล้านบาท ถ้าบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพขึ้น ก็จะลดงบประมาณลงได้ แล้วนำเงินไปทำส่วนอื่น
ทั้งนี้ ขยะที่ส่งกลิ่นเหม็นเน่า ส่วนใหญ่มีปัญหาจากการไม่แยกขยะ ดังนั้น การแก้ปัญหาลำดับต้น ต้องแยกขยะเปียก ขยะอินทรีย์ออกมาก่อน โดยเริ่มที่ต้นทาง ซึ่ง กทม. เอง ต้องเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม เช่น รถที่มารับขยะต้องแยก ชนิดชัดเจน ไม่ใช่เอาขยะเปียก ขยะแห้ง มารวมกัน รวมถึงการสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนหันมาแยกขยะ ที่อาจได้ส่วนลด ค่าเก็บขยะ และการให้ความรู้ แนะนำอุปกรณ์ การทำปุ๋ยหมัก เพื่อส่งเสริมการทำแปลงเกษตรอินทรีย์ในชุมชน ส่วนขยะแห้งให้นำไปรีไซเคิล นำไปเป็นเชื้อเพลิง หรือฝังกลบ
ขณะเดียวกัน หากตนได้รับเลือกเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในช่วงสถานการณ์โควิค มองว่า โควิดเป็นการแก้ปัญหาในมิติที่สำคัญมาก เพราะส่งผลกระทบทุกภาคส่วน หากโควิดยังไม่จบประชาชนต้องทนลำบากกับภาวะเศรษฐกิจไปอีก โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเร่งรับมือ โดยต้องกลับมาทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น มีปัญหามาจากอะไรบ้าง อย่าทำให้กลับไปเป็นเหมือนเดิม ซึ่งปัญหาที่ผ่านมาส่วนหนึ่ง เกิดจากการประสานงานระหว่างหน่วยงาน
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า การติดเชื้อโควิดยังคงมีอย่างต่อเนื่อง จำเป็นต้องยึดหลักกระจายอำนาจ จัดทรัพยากรลงไปดูแลถึงระดับชุมชน และทำให้ชุมชนเข้มแข็ง ดูแลตัวเองได้ ซึ่งถ้าหากได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. จริง ก็สามารถจัดการ เรื่องโควิดได้ทันที พร้อมเชื่อมั่นในศักยภาพของบุคลากรกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ จะต้องเริ่มเข้าไปบริหารจัดการทรัพยากรที่เหมาะสม การให้กำลังใจ และให้อาวุธที่เพียงพอไปต่อสู้กับโควิด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews