นายกฯ แจงเปลี่ยนรูปแบบรดน้ำดำหัวสงกรานต์ เฉพาะรัฐบาล ห่วงการร่วมกลุ่มทำโควิด -19 ระบาด ขอประชาชนเดินทางช่วงเทศกาล อย่าฝ่าฝืนกฎหมาย ขอสื่อฯ นำเสนอข่าวทำบ้านเมืองสงบ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุถึง กรณีการเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานรดน้ำดำหัวช่วงเทศกาลสงกรานต์ในวันที่ 12 เมษายน 2565ที่แต่เดิมมีการเชิญ พรรคร่วมรัฐบาล และสมาชิกสวเข้าร่วม ไปเปลี่ยนเป็นรูปแบบ ให้แต่ละหน่วยงานจัดเป็นภายใน ว่า ในระหว่างนั้นได้มีการหารือกันในบรรดาครม.และพรรคร่วมรัฐบาลอยากถือโอกาสมาเจอกัน แต่ตนดูแล้วว่าสถานการณ์ปัจจุบันไม่ควร ได้บอกยกเลิกไปแล้ว ทั้งเรื่องสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด -19 ความเหมาะสม ก็เป็นเรื่องของแต่ละฝ่ายแต่ละหน่วยงานที่ไปจัดเอาตามมาตรฐาน Covid Free setting โดยจะใช้เป็นการทำบุญและการรดน้ำภายในของรัฐบาล
แต่ถ้าส่วนตัวใครอยากจะมาก็มาได้ แต่ต้องผ่านการคัดกรองผ่านมาตรฐานความปลอดภัย หากมากันเป็นคณะใหญ่ๆ มองว่า ไม่เหมาะสม ซึ่งขณะนี้ได้คุยกับหัวหน้าพรรคทุกพรรครวมไปถึงเรียนนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และนายพรเพชรวิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเดิมต้องการให้เห็นภาพว่าเรานั้นสามัคคีกัน ในบรรดาทั้ง 3 อำนาจ ที่ทำงานทั้งบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ นานๆได้มาเจอกันสักทีได้รดน้ำ ขอพรซึ่งกันและกัน แต่ปรากฏว่าสถานการณ์ไม่เหมาะสม เพราะฉะนั้นอย่าทำเลยดีกว่า
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า นายกรัฐมนตรีได้ติดตามและตัดสินใจ อะไรดี อะไรไม่ดี อะไรเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม วันนี้มีอย่างเดียวที่ตนอยากจะห่วง และอยากจะเตือน คือการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ การใช้รถใช้ถนน ซึ่งเป็นภาระของทุกหน่วยงาน จัดคนไปเฝ้าไปดูแลทุกถนนหนทางไม่ได้พักผ่อน และสถิติการเสียชีวิตก็ยังมาก หรือลดลงได้เพียงเล็กน้อยซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับผู้ใช้รถใช้ถนน หากรักตัวเองรักครอบครัวก็จะต้องระมัดระวังและรักคนอื่นด้วย คืออย่าฝ่าฝืนกฎหมาย เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุเกิดขึ้น
ด้วยนายกรัฐมนตรียังกล่าวอีกว่า วันนี้มีหลายเรื่องที่เป็นห่วง และติดตาม ทั้งเรื่องร้องเรียน การชำรุด การซ่อมถนน ในทุกพื้นที่โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯที่มีการค้างคาอยู่ที่ยังทำไม่แล้วเสร็จและเกิดภาระต่อประชาชน ตนได้มอบหมายให้สำนักนายกรัฐมนตรีลงไปตรวจราชการในพื้นที่ ว่ามีการติดค้างอะไรอย่างไร พื้นที่อะไรแก้ไขไปแล้วอย่างวันก่อน ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตนได้มอบหมายให้ทางกระทรวงมหาดไทย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปตรวจสอบดูแล และสามารถแก้ไขปัญหาได้แล้วอย่างการขนส่งสินค้า ตนได้กำชับไปยังผู้ว่าราชการและผู้อำนวยการเขตต่างๆ
พร้อมยอมรับว่า วันนี้ปัญหาเกิดขึ้นเยอะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาด้านเศรษฐกิจ หากไม่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 คงจะดีกว่านี้แต่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทุกประเทศเจอกันหมด ทั้งเรื่องสงครามรัสเซียยูเครน ขอให้ติดตามจากสื่อที่มีมาตรฐาน ซึ่งตนก็ติดตามทุกวันทั้งจากทาง CNN ตนฟังทั้งสองฝ่ายหน้าที่ของเราคือจะทำอย่างไรให้สถานการณ์นั้นสงบลง ไม่มีการใช้อาวุธสงครามระหว่างกัน ดูแลเรื่องมนุษยธรรม เราเองก็ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังยูเครนผ่านสภากาชาดไปพอสมควร พร้อมกับมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี ตามพันธสัญญาต่างๆเราก็ต้องเคารพ วันนี้ก็ต้องดูให้ดีก็แล้วกันว่าเราทำได้แค่ไหนอย่างไรไม่ใช่เน้นเหตุการณ์บานปลายไปเรื่อยๆก็จะส่งผลกระทบกับทุกประเทศในโลกใบนี้ ถ้าประชาชนเดือดร้อนก็จะลำบาก
นายกรัฐมนตรี ขอให้สื่อมวลชนนั้นเสนอข่าวที่เป็นประโยชน์ ให้บ้านเมืองสงบเสียที หากบ้านเมืองไม่สงบข้างนอกไม่สงบด้วยก็จะไปกันใหญ่เนื่องจากจะทำให้ความรักความสามัคคีนั้นหายไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews