“พนิต” ติง “ช่อ” ชุมนุมได้ทุกที่ พฤติกรรม หมิ่นเหม่ หวังคะแนนม๊อบสามนิ้วช่วย “วิโรจน์” ถามชุมนุมหน้าบ้านคณะก้าวหน้าได้หรือไม่
นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ค “Panich Vikitsreth – พนิต วิกิตเศรษฐ์” เรื่อง “ชุมนุมได้ทุกที่ หมิ่นเหม่ หรือไม่” ว่าวันก่อนมีประเด็นที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในนามอิสระ พูดถึงการแก้ปัญหาการชุมนุมในพื้นที่ กทม. ว่าจะทำอย่างไรไม่ให้สร้างปัญหาให้คนที่ไม่ได้มาร่วมชุมนุม โดยนายชัชชาติ เสนอว่า กทม. ในฐานะเจ้าของพื้นที่ ควรจัดพื้นที่สำหรับการแสดงออกทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก เพื่อให้คนมาแสดงความคิดเห็นได้
ในขณะที่ กทม. ต้องอำนวยความสะดวกเรื่องการจัดหาเครื่องเสียง รถสุขา มีการประสานงานขออนุญาตใช้พื้นที่ชุมนุมตามกฎหมาย แต่ปรากฏว่า นางสาวพรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า ที่สนับสนุนนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.จากพรรคก้าวไกล ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้ พร้อมกับบอกว่า การชุมนุมเป็นสิทธิ์ ขั้นพื้นฐานของประชาชน ต้องเกิดได้ทุกที่ ในฐานะที่เคยทำงานในตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม.และ ส.ส.กทม. โดยในปี 2553 ยังเป็น กมธ.วิสามัญ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ เห็นต่างจากนางสาวพรรณิการ์
โดยเฉพาะประเด็น ที่ว่าการชุมนุมต้องเกิดได้ทุกพื้นที่ เพราะแม้การชุมนุมจะเป็นการแสดงสิทธิเสรีภาพของประชาชน แต่ต้องเคารพสิทธิเสรีภาพของผู้อื่นเช่นเดียวกัน อย่างประเทศอังกฤษ ยังมีกฎหมายว่าด้วยเรื่องการชุมนุมในที่สาธารณะโดยเฉพาะเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยและไม่กระทบผู้อื่น
ขณะที่ประเทศไทยก็ไม่ได้ห้ามชุมนุม หรือปิดกั้นการแสดงความเห็นแต่อย่างใด เพียงแต่ขอให้ทำตามกฎหมาย โดยในพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ในมาตรา 10 ได้เปิดช่องให้ขออนุญาตชุมนุมไว้
โดยระบุว่า “ผู้ใดประสงค์จะจัดการชุมนุมสาธารณะ ให้แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้งก่อนเริ่มการชุมนุมไม่น้อยกว่ายี่สิบสี่ชั่วโมง” ในกฎหมายเขียนไว้ชัดเจนว่า ชุมนุมที่ไหนได้ และไม่ได้ โดยใน มาตรา 7 บัญญัติไว้ว่า “การจัดการชุมนุมสาธารณะในรัศมีหนึ่งร้อยห้าสิบเมตรจากพระบรมมหาราชวัง พระราชวัง วังของพระรัชทายาทหรือของพระบรมวงศ์ ตั้งแต่สมเด็จเจ้าฟ้าขึ้นไป พระราชนิเวศน์ พระตำหนัก หรือจากที่ซึ่งพระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท พระบรมวงศ์ตั้งแต่สมเด็จเจ้าฟ้าขึ้นไปหรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ประทับหรือพำนัก หรือสถานที่พำนักของพระราชอาคันตุกะ จะกระทำมิได้” หากไม่กำหนด หรือจัดโซนไว้ให้ นางสาวพรรณิการ์ ลองคิดดูว่า หากวันหนึ่ง อยู่ๆ มีใครไม่รู้มาจัดชุมนุมหน้าบ้าน โหวกเหวกเสียงดัง ปิดทางเข้า-ออกบ้านจนไม่สามารถเดินทางได้ เราจะยังโอเคอยู่หรือไม่
ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องมีกติกา มีเรื่องของการขออนุญาตในการจัดไว้ แนวคิดการจัดพื้นที่ชุมนุมให้เป็นสัดส่วนจึงถือว่าดี เพราะจะไม่ส่งผลกระทบต่อส่วนรวมหรือกับผู้ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องที่จะต้องใช้ชีวิตประจำวันนายพนิต กล่าวว่า อย่างไรก็ดี การออกมาคัดค้านนโยบายนี้ ครั้งนี้ตนเองไม่แน่ใจในเจตนาด้วยว่า ต้องการจะสื่ออะไรที่มากกว่านั้นหรือไม่ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าในช่วง 2-3 ปีนี้มานางสาวพรรณิการ และองคาพยพ แสดงความเห็นสนับสนุนการชุมนุมของกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่พยายามโฉบเฉี่ยวไปชุมนุมในสถานที่สำคัญที่กฎหมายห้ามเอาไว้หลายครั้ง ไม่ว่าจะสถานที่ราชการ หรือเขตพระราชฐาน การออกมาบลัฟนโยบายของนายชัชชาติ จึงชวนให้สงสัยว่า กำลังเอาใจคนกลุ่มนี้เพื่อหาเสียงทางอ้อมให้กับนายวิโรจน์หรือไม่ พฤติกรรมในอดีตกับความคิดที่ต้องชุมนุมได้ทุกที่ มันชวนให้คิดจริงๆ ว่าจะสื่อถึงอะไร และนำไปสู่การตีความหมิ่นเหม่ที่อาจทำให้คนไทยไม่สบายใจ
ทั้งนี้นายพนิต ระบุว่า การแข่งขันครั้งนี้ มาสู้กันด้วยนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประชาชนจริงๆ มาดีเบตกันโดยไม่มีนัยยะแอบแฝงเรื่ออื่นดีกว่า เราต้องการผู้ว่าฯกทม.ที่มาทำงานให้คนกรุงเทพไม่ได้ต้องการคนที่จะมาเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอะไรที่พลันแต่จะสร้างความขัดแย้งให้กับคนในสังคม
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews