Home
|
ข่าว

ไทย-อิสราเอลฯ ย้ำความสัมพันธ์ทวิภาคีรอบด้าน

Featured Image
นายกฯ หารือเอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลฯ ย้ำความสัมพันธ์ทวิภาคีที่รอบด้านและครอบคลุมระหว่างกัน

 

 

นางออร์นา ซากิฟ (H.E. Ms. Orna Sagiv) เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ โดยกล่าวแสดงความยินดีที่ไทยและอิสราเอลมีความสัมพันธ์ราบรื่น และมีพัฒนาการความร่วมมือระหว่างกันในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะในด้านการค้า การพัฒนา และแรงงาน นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของเอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลฯ จะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศให้ใกล้ชิด และความร่วมมือให้ครอบคลุมทุกมิติ

 

 

นายกรัฐมนตรีและเอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลฯ ต่างเห็นพ้องว่า ไทยและอิสราเอลยังมีสาขาความร่วมมือที่มีศักยภาพอีกมาก โดยเฉพาะในด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมความเชี่ยวชาญและโดดเด่นของอิสราเอลในด้านการเกษตรและการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งเป็นประเด็นที่ไทยให้ความสำคัญและมุ่งมั่นที่จะพัฒนาความร่วมมือมากขึ้น รวมไปถึงนวัตกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการพัฒนาวัคซีน

 

 

ด้านเอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลฯ กล่าวชื่นชมนายกรัฐมนตรีในการบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระจายวัคซีนให้แก่ประชาชนอย่างทั่วถึง พร้อมยินดีสนับสนุนความร่วมมือด้านการวิจัย การพัฒนานวัตกรรม และเทคโนโลยี ระหว่างกันมากยิ่งขึ้นในการจัดการกับวิกฤตโรคระบาดที่อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคต

 

ความร่วมมือด้านแรงงาน นายกรัฐมนตรี ทราบว่า เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลฯ ได้พบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานวานนี้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ในด้านนี้มากยิ่งขึ้น พร้อมได้กล่าวขอบคุณที่รัฐบาลอิสราเอลให้การดูแลแรงงานไทยในอิสราเอลเป็นอย่างดี

 

ด้านเอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลฯ กล่าวว่า แรงงานไทยถือเป็นกลุ่มแรงงานที่สำคัญ (high priority) ในอิสราเอล ปัจจุบันมีแรงงานไทยประมาณ 25,000 คน ส่วนใหญ่ทำงานในภาคเกษตรกรรม โดยรัฐบาลทั้งสองประเทศมีข้อตกลงร่วมกัน พร้อมกล่าวยืนยันดูแลความปลอดภัยของประชาชนทุกคนที่อาศัยอยู่ในอิสราเอลเป็นอย่างดี

 

ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่า การสานต่อความความร่วมมือในการเพิ่มปริมาณการค้าระหว่างกันเป็นส่วนสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ภาคเอกชนของไทยมีความสนใจจะเข้าไปลงทุนในอิสราเอล และเห็นว่าไทยและอิสราเอลสามารถร่วมมือกันในเรื่องโมเดลเศรษฐกิจ BCG ซึ่งเป็นประเด็นที่ไทยผลักดัน เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและบรรลุการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมถึงมีส่วนช่วยเพิ่มมูลค่าในสาขาที่ไทยมีความเชี่ยวชาญ อาทิ การเกษตร อาหาร สุขภาพ การแพทย์ และการท่องเที่ยว บริการ โดยอาศัยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม

 

 

ขณะที่ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ทั้งสองฝ่ายต่างยินดีที่นักท่องเที่ยวอิสราเอลนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย และเห็นว่าการส่งเสริมความสัมพันธ์ด้านวัฒนธรรมและภาคประชาชนเป็นรากฐานที่ดีสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ นายกรัฐมนตรีหวังว่าชาวอิสราเอลจะกลับมาท่องเที่ยวไทยอีกครั้งหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลายลง โดยเอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลฯ กล่าวว่า ชาวอิสราเอลนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย เชื่อมั่นว่า ชาวอิสราเอลจะกลับมาท่องเที่ยวไทยอีกครั้งหลังสถานการณ์คลี่คลายลงอย่างแน่นอน

 

ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลฯ ยังได้อ่านข้อความจากนายกรัฐมนตรีอิสราเอลถึงนายกรัฐมนตรี ชื่นชมความสัมพันธ์ที่มีมาอย่างยาวนานระหว่างทั้งสองประเทศ พร้อมหวังว่าจะมีโอกาสได้ต้อนรับนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเยือนอิสราเอลในโอกาสแรกที่เหมาะสม ซึ่งหากนายกรัฐมนตรีตอบรับคำเชิญ นายกรัฐมนตรีจะเป็นนายกรัฐมนตรีไทยคนแรกที่เดินทางเยือนอิสราเอล และจะเป็นโอกาสอันดีที่จะกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างกันอย่างรอบด้านต่อไป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube