ดีอีเอส ยันเว็บไซต์ ป.ป.ช. ไม่ได้ถูกเเฮ็ก มั่นใจระบบป้องกันข้อมูลรัฐดี จับมือสกมช.ตรวจสอบเข้มข้น รับข้อมูลที่รั่วไหลเป็นเรื่องที่เปิดเผยอยู่แล้ว
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจเเละสังคม ร่วมกับพล.พ.ปรัชญา เฉลิมวัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ, น.อ. อมร ชมเชย รองเลขาธิการคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติและผู้อำนวยการศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์แห่งชาติ แถลงข่าว เรื่องเว็บไซต์สํานักงานป.ป.ช.มีข้อมูลรั่วไหล
โดยนายชัยวุฒิ ระบุว่า จากเหตุการณ์กรณีที่นําเสนอข่าว มีข้อมูลทรัพย์สิน 780 บัญชี-เรื่องชี้มูล 1,366 คดี รั่วไหลไปยังเว็บไซต์ของหน่วยงานอื่น ของภาคเอกชน ซึ่งทำให้คนเข้าใจผิดว่าเว็ปไซด์ถูกแฮก ทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและ สํานักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ หรือ สกมช. ได้ร่วมกับสํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ตรวจสอบแล้วพบว่า เรื่องนี้ไม่ได้ถูกแฮก ไม่ได้ถูกโจมตี ระบบของป.ป.ช.ยังมีความมั่นคงปลอดภัย โดยข้อมูลที่รั่วไหลออกไปเป็นข้อมูลที่ป.ป.ช.เป็นข้อมูลที่เปิดเผยอยู่แล้วตามกฎหมาย บัญชีทรัพย์สิน ข้อมูลมติชี้มูลความผิดซึ่งป.ป.ช.เปิดเผยอยู่แล้ว แต่มีบุคคลบางกลุ่ม นำข้อมูลนี้ไปเผยแพร่ต่อในเว็บไซด์ของกลุ่มบุคคลนั้นซึ่งทำให้เกิดความสับสน ข้อมูลอาจมีความคลาดเคลื่อน บิดเบือน เปลี่ยนแปลง ทางป.ป.ช.จึงได้มีการแจ้งเตือน ไม่ให้นำข้อมูลจากเว็บไซต์ดังกล่าวไปใช้ ให้ตรวจสอบข้อมูลต่างๆจากเว็บไซต์ของป.ป.ช.เท่านั้นเป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้ ไม่ได้ถูกแฮก หรือโจมตี
ส่วนการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวนั้น ทาง สกมช. ได้ตรวจพบและแจ้งสํานักงาน ป.ป.ช. แล้วตั้งแต่ 13 ม.ค.65 และมีการตรวจสอบร่วมกัน พบว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลช่วงปี 2562 ซึ่งเป็นข้อมูลที่ต้องเปิดเผยโดยปกติตามกฎหมายของสํานักงาน ป.ป.ช. แต่มีเว็บไซต์ของหน่วยงานอื่นได้ดูดข้อมูลดังกล่าวไป เผยแพร่และเปิดช่องทางให้ผู้อื่นแก้ไขได้ส่งผลทําให้มีผู้กล่าวอ้างว่าเป็นข้อมูลที่รั่วไหลจากเว็บไซต์ของสํานักงาน ป.ป.ช. ซึ่งไม่เป็นข้อเท็จจริง จึงเป็นที่มาของประกาศข่าวสํานักงาน ป.ป.ช. ดังกล่าวที่ต้องการชี้แจงให้สาธารณชนได้ทราบ
นอกจากนั้น สกมช. โดยศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์แห่งชาติ ได้ดําเนินการ แจ้งผู้ที่ได้นําเสนอข้อมูลที่ดูดจากเว็บไซต์ของสํานักงาน ป.ป.ช. ให้ดําเนินการแก้ไข และปัจจุบันในการตรวจสอบล่าสุด พบว่าเว็บไซต์ดังกล่าวได้มีการปิดและลบข้อมูลที่ได้มีการกล่าวอ้างในข่าวแล้ว
ด้านนาวาอากาศเอกอมร กล่าวว่า ในกรณีต่างๆเราได้ตรวจสอบพบเจอเหตุการณ์นี้ครั้งแรก วันที่ 13 ม.ค.และหลังจากนั้นก็ได้ดำเนินการตรวจสอบร่วมกับทาง ปปช. อย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจว่าจากข้อมูลที่พบเจอนั้นเป็นสิ่งที่ต้องเปิดเผยอยู่แล้ว แล้วก็ตัวเว็บรวมทั้งระบบต่างๆของ ปปช.ยังมีความมั่นคงปลอดภัย แต่ในสิ่งที่ถูกสื่อออกไปว่ามีการถูกแฮกนั้นมันไปเกิดขึ้นกับตัวระบบของหน่วยงานอื่นที่ได้ดูดข้อมูลนี้ไปแล้วก็ก่อให้เกิดการเข้าใจผิด เพราะฉะนั้นในส่วนประเด็นนี้คือ ตัวองค์กรที่เกี่ยวข้องยังมีความมั่นคงปลอดภัย แต่ถึงอย่างไรก็ตามทาง สกมช กับทาง ดีอี ก็จะเตรียมการและเฝ้าระวังเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ทั้งประเด็นนี้และก็ประเด็นเรื่องความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ในอนาคต
นอกจากนี้นายชัยวุฒิ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และทางสำนักงานคณะกรรมการความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ เราจะเฝ้าระวังติดตามปัญหาภัยคุกคามในโลกไซเบอร์อยู่ตลอดเวลา เพื่อไม่ให้มีการถูกโจมตีในหน่อยงานของรัฐทั้งหมด โดยต่อจากนี้ทางหน่วยงานหรือทางพี่น้องประชาชนถูกโจมตีหรือมีปัญหาถูกแฮ็กต่างๆก็สามารถติดต่อเข้ามาได้ทางศูนย์เตือนภัยเกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ เจ้าหน้าที่ NCERT และ ncsa.or.th เรามีหน่อยงานรับเรื่องร้องเรียน และคอยช่วยประสานงานอยู่ตลอดเวลา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews