“วิโรจน์” ควง “พีรพล” ทวงความเป็นธรรมต่อ กกต.
“วิโรจน์” ควง “พีรพล” ทวงความเป็นธรรมต่อ กกต.ยื่นอุทธรณ์คำวินิจฉัยตัดสิทธิผู้สมัคร ส.ก. ชี้ กระทบต่อสิทธิอย่างร้ายแรง
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. พรรคก้าวไกล พร้อมนายพีรพล กนกวลัย ผู้สมัคร ส.ก.เขตพญาไท ทวงถามความเป็นธรรม กรณีการยื่นอุทธรณ์ คำวินิจฉัยตัดสิทธิผู้สมัคร ส.ก. ของพรรค หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่ประกาศชื่อของพีรพลเป็นผู้สมัคร พร้อมเรียกร้องให้ กกต.ไตร่ตรอง ให้รอบคอบอีกครั้ง เพราะเรื่องนี้กระทบต่อสิทธิของนายพีรพลอย่างร้ายแรง ซึ่งมีหลักฐานเอกสารแสดงชัดเจน
โดยอ้างอิงข้อกฎหมาย พ.ร.บ.การพิมพ์ 2584 ที่กำหนดชัดว่าการเป็นผู้จัดพิทพ์หรือเจ้าของสื่อสิงพิมพ์ หากเป็นหนังสือพิมพ์รายคราว ไม่ได้พิมพ์นานเกิน 2 ปี ถือว่าความเป็นเจ้าของสิ้นสุดลงโดยกฎหมาย ขณะเดียวกับฝนไม่ได้ดำเนินกิจการตั้งแต่ปี 2537 ซึ่งหมายความว่าการเป็นเจ้าของสิ้นสุดลงปี 2539 แม้จะมี พ.ร.บ.จดแจ้งสื่อสิ่งพิมพ์ปี 2550 ให้โอนรายชื่อเจ้าของสื่อสิ่งพิมพ์ในบทเฉพาะกาล แต่การเป็นเจ้าของสิ้นสุดนับแต่ 2539 เชื่อว่าการที่รายชื่อนายพีรพลปรากฎ ในระบบเป็นความบกพร่องของระบบราชการ ยังยกกรณีที่เคยเกิดเหตุการในลักษณะนี้เกิดขึ้นในการเลือกตั้งท้องถิ่นจังหวัดกาญนบุรีที่มีผู้สมัครคนหนึ่งไม่ได้ รีบการประกาศรายชื่อผู้สมัคร เหตุเพราะคุณสมบัติการสมัครที่มีข้อมูว่าไม่ได้ไปเลือกตั้ง แต่สุดท้ายพบหลักฐานการไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง แต่กกต.ก็ไม่ยกเลิกคำวินิจฉัยเดิม และเกิดการฟ้องร้องเอาผิดต่อศาลปกครอง
และอ้างอิงคดีที่ กกต.ถูกฟ้องร้องค่าเสียหายจากการวินิจฉัยคดีเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่ 70 ล้านบาท ย้ำ กกต.ต้องทบทวนคำร้อง ก่อนจะยืนยันความบริสุทธิ์ และสิทธิอันชอบธรรม โดยพรรคก้าวไกลพร้อมฟ้องร้องทางแพ่ง-อาญา เพื่อปกป้องสิทธิ์ หากเกิดความเสียหายต่อผู้สมัครและต่อพรรค
สอดคล้องกันนี้นายพีรพล ยืนยันว่า “หนังสือท่องธรรมชาติ” ที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมนั้น ไม่เคยนำมาใช้ประโยชน์ทางการเมืองหรือหาเสียงเลยในเลือกตั้งครั้งนี้ย้ำว่าไม่เป็นธรรมสำหรับตัวเอง ในการตัดสิทธิผู้สมัครโดยการใช้เหตุผลว่ามีหัวหนังสือท่องธรรมชาติ ที่ไม่ได้ทำมา 28 ปีนับแต่ 2537 เผยการตัดสิทธิครั้งนี้ไม่เป็นธรรม ยันจะดำเนินคดีต่อ กกต.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews