“สกลธี”หาเสียงตลาดนางเลิ้ง รับฟังปัญหาผู้ค้า โอดซบเซาเพราะโควิด ถ่อมตัวผลโพล”ปริญญ์เอฟเฟกต์” ไม่มีนัยยะ แค่เป็นกำลังใจที่ดี
บรรยากาศการลงพื้นที่หาเสียงของนายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร วันนี้มีการลงพื้นหาเสียงที่ตลาดนางเลิ้ง ซึ่งบรรยากาศวันนี้เป็นไปอย่างคึกคักพ่อค้า แม่ค้า และประชาชนที่เดินทางมาจับจ่ายซื้อของทักทาย พูดคุยกับนายสกลธีโดยนายสกลธี กล่าวภายหลังการลงพื้นที่หาเสียงว่า ที่ตลาดนางเลิ้งเหมือนตลาดทุกที่ที่พ่อค้า แม่ค้า บอกว่ามีความซบเซาเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19
ซึ่งนโยบายของตัวเองหากได้รับโอกาสเป็นผู้ว่า กทม.ต้องช่วยกันประชาสัมพันธ์ แต่จุดตลาดนางเลิ้งเข้ากับนโยบายล้อ ราง เรือ อยู่แล้ว แต่ต้องมีการประชาสัมพันธ์เพื่อให้รู้ว่าอาหารมีอยู่แต่ละเขตอยู่จุดใดบ้าง ต้องให้สำนักงานเขตช่วยให้กลับมามีความน่าสนใจ หรือคนมาเพิ่มมากขึ้น
ซึ่งจะต้องจัดเป็นงานอีเวนต์คัดเลือกร้านค้าในตลาดไปจัดข้างนอกบ้าง เพื่อให้เป็นการกระตุ้น แต่สำหรับตลาดทั่วไปจะต้องอาศัยเขตในการประชาสัมพันธ์ และจุดอื่นมีการเข้าถึงอย่างไรบ้าง อาจนำขนส่งสาธารณะเข้าไปช่วยเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงตลาดได้มากขึ้น ส่วนตลาดสดอาจต้องมีการจัดเป็นงานอีเวนต์หรือถนนคนเดิน ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ตนเองเป็นรองผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ได้ลองจัดที่เยาวราช หรือสีลม พบว่าประชาชนมากันเยอะมาก หากให้เขตจัดนำร้านเด็ดและดังที่มีเสน่ห์ของแต่ละเขตมาจัดโปรโมตอาจจะทำให้คนเดินทางมาทาน
รวมถึงการลงพื้นที่ขณะนี้ดีขึ้นเรื่อยๆ ประชาชนที่เจอมีการให้กำลังใจ ซึ่งเป็นประโยชน์ที่ลงพื้นที่ตลาด เพราะจะได้ข้อแนะนำของคนที่เดินตลาด รวมถึงตลาดเช้าส่วนใหญ่จะเป็นคนในพื้นที่จะทำให้รู้ปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่นั้นๆ สามารถนำมาเป็นนโยบายต่อได้
ส่วนเรื่องของคดีความที่ได้มอบหมายให้ทนายความฟ้องร้อง 2 พิธีกร วิโรจน์-คำผกา หลัง วิจารณ์-ด้อยค่า อุดมการณ์ทางการเมือง นายสกลธีระบุว่า ได้มอบหมายให้ทนายความยื่นฟ้องต่อศาลอาญาและศาลประทับรับฟ้องเรียบร้อยแล้วไต่สวนในวันที่ 18 ก.ค.65 ซึ่งให้กระบวนการทางยุติธรรมเดินไป รวมถึงก่อนหน้านี้พิธีกรของช่องดังกล่าวมีการพูดถึงเรื่องเสรีภาพในการพูด หรือ Freedom of Speech ตนมองว่า อย่าตัดสินกันเองเสรีภาพในการพูดหรืออะไรก็แล้วแต่ ให้ศาลตัดสินดีกว่า ซึ่งตนมองว่าเป็นการดิสเครดิตเพราะเรื่องที่ผ่านมา 7-8 ปีแล้ว
ส่วนกรณีที่มีผลซุปเปอร์โพลเผยผลสำรวจเรื่องปริญญ์เอฟเฟกต์เลือกตั้ง กทม. โดยนายสกลธีมีค่าผลกระทบเป็นบว ก+.161 ซึ่งถือว่ามีนัยยะสำคัญทางสถิตินั้น นายสกลธี กล่าวว่า มีความเป็นไปได้แต่น่าจะน้อย เพราะเป็นเรื่องอาจมีกระแสที่กระทบอยู่บ้าง แต่ตนมองว่า ยังไม่มีนัยยะอะไรเท่าที่ควร
แต่หากโพลของตนเพิ่มขึ้นก็เป็นกำลังใจที่ดี แต่โพลเป็นส่วนประกอบหนึ่งเท่านั้น ตนมองว่าเป็นเพียงกลุ่มตัวอย่าง 1 พันกว่าตัวอย่าง จากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 4 ล้านคน คงชี้ชนะในโพลไม่ได้ต้องดูวันจริง ส่วนมั่นใจหรือไม่ที่จะคว้าใจของคนกทม. นายสกลธี ระบุว่า ตนมั่นใจ แต่ต้องขึ้นอยู่กับคำตอบของคนกรุงเทพฯในวันที่ 22 พ.ค.นี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
