“นราพัฒน์” แจงประชุมนัดแรกปรับข้อบังคับครอบคลุม กก.บห. ใช้โซเชียลมีเดีย คาดใช้เวลา 1 สัปดาห์
นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะหัวหน้าคณะกรรมการตรวจสอบการให้ข้อมูลที่ไม่เหมาะสม และการนำข้อมูลภายในพรรคไปเผยแพร่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ได้รับความเสียหาย พร้อมด้วย นายมนตรี ปาน้อยนนท์ ส.ส. จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าการประชุมนัดแรกว่า เป็นการประชุมเพื่อกำหนดกรอบในการพิจารณาทั้ง 2 กรณี
เพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับพรรคการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ พ.ศ. 2561โดยประเด็นหลักประกอบด้วย 2 หมวด คือ หมวด 3 ที่ว่าด้วยสิทธิ และหน้าที่ของสมาชิก ตามข้อ 18 (1) (2) และหมวด 4 มาตรฐานทางจริยธรรมของกรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรค ตามข้อ 26
ซึ่งที่ประชุมได้มอบหมายตนให้เร่งดำเนินการสอบสวนกรณีที่มีการโพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสม และกรรมการบริหารที่อยู่ในกลุ่มไลน์ทุกคนให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด และจะได้นัดประชุมเพื่อรวบรวมข้อมูลประเด็นต่างๆ เสนอต่อหัวหน้าพรรคต่อไป
นอกจากนี้ ทางคณะกรรมการฯ ยังได้พิจารณาเพิ่มเติมโดยเห็นว่าควรปรับปรุงข้อบังคับพรรคให้มีกติกาและมีบทลงโทษในการใช้โซเชียลมีเดียให้เหมาะสมและการกำหนดโทษการใช้โซเชียลที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อพรรคในอนาคต โดยต้องการให้มีศูนย์รับเรื่องกรณีที่มีการโพสต์ หรือการแชร์ข้อความในโซเชียลมีเดียทั่วไปซึ่งเป็นการโพสต์ข้อความเท็จ บิดเบือน ทำให้พรรคได้รับความเสียหาย เพื่อมอบให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินคดีต่อไป
ส่วนวิธีการดำเนินการว่าจะดำเนินการอย่างไรนั้น นายนราพัฒน์ กล่าวว่า เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว เนื่องจากได้ตั้งระยะเวลาการตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์
ดังนั้นการเชิญกรรมการบริหารทุกท่านมา คงจะใช้เวลาพอสมควร จึงจะใช้จากการพูดคุยสอบถามทางโทรศัพท์ หรือการตอบข้อความทางไลน์เป็นรายบุคคล เพื่อบันทึกความคิดเห็น
สำหรับสาเหตุที่ข้อความทางไลน์หลุดลอดออกไปภายนอกได้อย่างไรนั้น นายนราพัฒน์ กล่าวว่า พอทราบว่ามาจากกลุ่มนักข่าวกลุ่มเล็กๆ ที่นำข้อความนี้ไปขยายความต่อเรื่องนี้จำเป็นต้องสืบข้อเท็จจริงให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่งก่อน ส่วนนางมัลลิกานั้น ได้แสดงความรับผิดชอบในฐานะส่วนตัวด้วยการลาออกไปแล้ว แต่ยังไม่ได้ชี้แจงถึงสาเหตุขณะที่นางมัลลิกายังจำเป็นต้องเป็น 1 ในผู้ที่ต้องถูกตรวจสอบจากคณะกรรมการ เพื่อทำเป็นบันทึกถ้อยคำถึงเจตนาการตอบข้อความทางไลน์ และเกี่ยวข้องกับกรณีข้อความทางไลน์หลุดออกไปภายนอกหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ขอบเขตการตรวจสอบของคณะกรรมการว่า จะได้พิจารณาถึงกรณีชู้สาวภายในพรรคหรือไม่นั้น จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้ใดแสดงตัวว่าเป็นผู้เสียหาย
และจากการสอบถามก็ยังไม่พบว่ามีผู้ใดเข้าข่าย หรือมีผู้เสียหายออกมาแสดงตัวตามที่นางมัลลิการะบุ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จึงคิดว่าไม่น่าจะมีมูลอะไร เพียงแต่ว่าอาจจะเป็นเรื่องการแสดงอารมณ์ตอบโต้กัน ซึ่งเป็นปัญหาภายใน ซึ่งตามข้อบังคับก็ระบุไว้ถึงแนวทางการแสดงความเห็นว่าจะต้องไม่ไปก้าวล่วงหรือหมิ่นประมาทผู้ใด
ทั้งนี้ จะนัดประชุมอีกครั้งในวันอังคารหน้า หลังจากได้ข้อมูลทั้งหมดเสร็จสิ้น และจะได้เสนอต่อหัวหน้าพรรคต่อไป ซึ่งตามข้อบังคับในเรื่องบทลงโทษต่างๆโดยหัวหน้าพรรคได้มอบให้กรรมการทำหน้าที่สืบสวนสอบสวน แล้วบันทึกข้อมูลทั้งหมดเพื่อให้หัวหน้าได้พิจารณาบทลงโทษต่อไปเช่นกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews