กมธ.พิจารณาร่างพรบ.กยศ. แถลงคืบหน้าการพิจารณา ขณะ “เพื่อไทย – ภูมิใจไทย – ประชาชาติ” เสนองดดอกเบี้ย
นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม รองประธานคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. คนที่หนึ่ง พร้อมคณะทำงาน ร่วมกันแถลงข่าวเกี่ยวกับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. รายมาตรา ซึ่งในวันนี้ ที่ประชุมมีการพิจารณาในส่วนของมาตรา 44 เป็นการพิจารณาต่อเนื่อง เรื่องการกู้ยืมต้องมีดอกเบี้ย มีเบี้ยปรับ และต้องมีผู้ค้ำประกันหรือไม่
โดย คณะ กมธ. ฝั่งของพรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาชาติ เสนอให้งดเบี้ยปรับ งดดอกเบี้ย และไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน ทั้งนี้ ผลการลงมติในประเด็นดังกล่าว คือ ที่ประชุมมีมติเห็นด้วยที่จะให้มีดอกเบี้ย เบี้ยปรับ และผู้ค้ำประกัน ซึ่งกรณีของดอกเบี้ยนั้น กมธ. ฝั่งของพรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาชาติ ได้มีการพิจารณาตามกฏหมาย จึงเสนอว่าจะต้องไม่มีดอกเบี้ย ไม่มีเบี้ยปรับ และไม่มีผู้ค้ำประกัน
แต่การเป็นหนี้นั้น จะต้องใช้หนี้เงินต้นคืน เนื่องจากการศึกษาเป็นสิทธิและเป็นหน้าที่ของรัฐตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 54 วรรคหก ที่เขียนไว้ชัดเจนว่า รัฐจะต้องมีกองทุนให้ผู้ยากไร้ เพื่อให้ผู้ยากไร้ได้เรียน เพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ซึ่งจนถึงปัจจุบันนี้ รัฐบาลก็จัดให้มีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา แต่ปรากฏว่า งบประมาณของกองทุนฯ ได้นำไปใช้กับการเรียนฟรี 15 ปี เกือบร้อยละ 99 ทำให้ผู้ยากไร้ ไม่มีเงินเรียนหนังสือ ทั้งที่การศึกษาเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน และเป็นหน้าที่ของรัฐที่จะต้องส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนได้มีความรู้
ดังนั้น จึงเห็นว่าการคิดดอกเบี้ยกับนักศึกษาเป็นการสร้างภาระ เพราะวันนี้ปัญหาที่นักเรียนนักศึกษาพบคือ ดอกเบี้ยปรับมากกว่าเงินต้นจำนวนมาก เมื่อเรียนจบเด็กกลุ่มนี้ถือว่าเป็นคนที่มีคุณภาพของประเทศ สร้างศักยภาพให้กับประเทศ ทำให้ประเทศมีคุณภาพ แต่กลับต้องเป็นหนี้และทำให้ครอบครัวได้รับผลกระทบโดยเฉพาะในช่วงวิกฤตโควิด – 19 ที่เศรษฐกิจถดถอย หากมีการแก้ไขไม่ให้มีดอกเบี้ย และเบี้ยปรับ กองทุน กยศ. ก็ยังได้รับเงินต้นกลับคืนมาเหมือนเดิม เพราะ กยศ. มีเครื่องมือในการเรียกเก็บเงิน โดยให้หน่วยราชการและนายจ้างหักเงินเดือนได้
แต่หากยังคงไว้ซึ่งดอกเบี้ย และเบี้ยปรับ จะทำให้เด็กกลุ่มที่ยากไร้ ต้องมีภาระเพิ่มขึ้น เพราะต้องจ่ายดอกเบี้ยให้รัฐบาล ทั้งที่หน้าที่การให้การศึกษาคือหน้าที่ของรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม ขอสงวนความเห็น และจะคัดค้านจนถึงที่สุด โดยจะสงวนความเห็นไว้อภิปรายในวาระที่สาม และขอเชิญชวนผู้แทนราษฎรที่เป็นผู้แทนของประชาชน ช่วยกันโหวตเห็นด้วยกับประเด็นนี้ในวาระที่สาม เพื่อให้กฎหมายฉบับนี้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อนักศึกษาและผู้ปกครองที่กู้ยืมเงินจากกองทุน กยศ. ต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews