นายกฯขอผู้ประกอบการภาคขนส่งเข้าใจ ให้ความร่วมมือ กรณียกเลิกตรึงราคาน้ำมันดีเซล ยืนยันภาครัฐพร้อมดูแลทุกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบสถานการณ์ราคาน้ำมัน
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มสมาพันธ์ขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
เพื่อขอให้พิจารณาทบทวนแนวทางปฏิบัติการแก้ไขปัญหาน้ำมันดีเซล เมื่อวานนี้ (27 เม.ย. 65) ว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแนวทางในการให้ความช่วยเหลือ
โดยยืนยันมีความห่วงใยประชาชนทุกภาคส่วน ที่จะได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซล ซึ่งต้องขอให้ผู้ประกอบการภาคขนส่งเข้าใจรัฐบาลด้วยว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้ดูแลตรึงราคาน้ำมันดีเซลมาระยะหนึ่งแล้ว
โดยได้ใช้เงินกองทุนพลังงานจำนวนหลายหมื่นล้านบาทจนหมด และถึงแม้ได้กู้เงินมาเสริมก็หมดลงไปแล้วเช่นกัน ดังนั้น ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนจะต้องร่วมมือกัน ซึ่งรัฐบาลพร้อมที่จะดูแลทุกภาคส่วนให้ดีที่สุด
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า การแก้ไขปัญหาวิกฤติราคาพลังงานในขณะนี้ รัฐบาลจะดำเนินการอย่างระมัดระวัง เพื่อใช้งบประมาณที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพที่สุด โดยที่ผ่านมารัฐบาลมีมาตรการดูแลราคาน้ำมันผ่านกองทุนน้ำมัน รวมทั้งปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 3 บาทต่อลิตร เพื่อตรึงราคาน้ำมันดีเซลที่เป็นต้นทุนสำคัญของสินค้าและบริการในประเทศ
ซึ่งสามารถช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชนได้ส่วนหนึ่ง ทั้งนี้ ในเดือน พ.ค. 65 ภาครัฐจะเริ่มลดการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลลง โดยจะอุดหนุนที่ 50% และจะมีการปรับราคาเป็นขั้นบันไดไปจนถึงเพดานที่กำหนด
โดยในวันที่ 1 พ.ค. 65 จะมีการปรับราคาไปที่ 32 บาท/ลิตร โดยขณะนี้หากไม่มีการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลจะอยู่ที่ประมาณลิตรละ 40 บาท และเพดานการปรับราคา ณ ปัจจุบันจะอยู่ที่ประมาณ 35 บาท/ลิตร ซึ่งกระทรวงพลังงานและคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) กำลังเร่งจัดทำแนวทางลดผลกระทบให้กับประชาชน
นอกจากนี้ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้เร่งทำแผนรองรับมาตรการพยุงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้กระทบแล้ว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews