Home
|
ข่าว

“สกลธี” เชื่อมือทีมงานแม้ไร้สก.หนุนไม่หวั่นเฟคนิวส์

Featured Image
“สกลธี” ซัดกลับบอกแม้ไร้ส.ก.พรรคหนุน เชื่อทีมงานมีศักยภาพมากกว่า ไม่หวั่นเฟคนิวส์-IO รับกปปส.มีฐานคะแนน

 

นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามอิสระ ลงพื้นที่หาเสียงเขตสวนหลวงร่วมกับนางโสภา อมราศรัยศรี ผู้สมัครส.ก. เขตสวนหลวง พรรคพลังประชารัฐ โดยเริ่มที่วัดมหาบุศย์ กราบไหว้ศาลย่านาคพระโขนง และสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นได้เดินทางมายังตลาดเอี่ยมสมบัติ เขตสวนหลวง เพื่อพบปะประชาชน ซึ่งได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี

 

นายสกลธี กล่าวถึงความพร้อมที่เหลือเวลาอีก 5 วันก่อนการเลือกตั้งผู้ว่ากทม. ว่ายังคงเดินหน้าหาเสียงอย่างเต็มที่ ร่วมเวทีดีเบตอีกประมาณ 2 เวที และจะปราศรัยใหญ่ปิดการหาเสียงในวันศุกร์ที่20 พ.ค.ที่วงเวียนใหญ่ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป

 

ซึ่งในวันนี้ได้ลงพื้นที่เขตสวนหลวงและสำรวจที่คลองประเวศบุรีรมย์ที่เชื่อมกับคลองแสนแสบ ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนนโนบายทำเรือโดยสารของตนที่มีวัดและมัสยิดต่างๆ ส่งเสริมเป็นสถานที่ท่องเที่ยว อีกทั้งการเดินทางทางเรือจะช่วยลดการจราจรบนถนนอ่อนนุชได้ ซึ่งตรงกับนโยบายล้อ ราง เรือ

 

ส่วนที่ในวันนี้มีผู้สมัคร ส.ก.? พปชร.มาร่วมเดินหาเสียงด้วยจะเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการหรือไม่นั้น นายสกลธี ระบุว่า ลงในนามอิสระไม่สังกัดพรรคแต่ก็มีการสนับสนุน จากคนคุ้นเคยมาร่วม เช่นเดียวกับพรรคการเมืองที่ไม่ได้ส่งผู้ว่าฯ ก็ให้อิสระส.ก.ว่าจะสนับสนุนใคร และในวันปราศรัยใหญ่ จะมีการเปิดตัวผู้สมัครส.ก.ที่จะให้การสนับสนุนตน รวมทั้งมีผู้มาปราศรัยเพิ่มเติมเพื่อปิดเวทีอย่างสมบูรณ์แบบ

 

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ถือเป็นโค้งสุดท้าย และตนเองเดินมาไกลมาก เชื่อว่าที่ผ่านมาตนและทีมงานได้ทำอย่างเต็มที่ สุดท้ายต้องอยู่ที่ประชาชนว่าจะเลือกใคร แต่หากเลือกผู้ว่าที่ชื่อสกลธีจะมีการเปลี่ยนแปลงของกรุงเทพอย่างแน่นอน

 

ส่วนกรณีโพลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนยังมีกลุ่มไม่ตัดสินใจเลือกผู้ว่าฯกทม.คนใด จะมีวิธีโน้มน้าวอย่างไรนั้น เชื่อว่า ยังมีคนไม่ตัดสินใจ เนื่องจากในครั้งนี้มีคนลงสมัครเยอะ ทำให้ตัดสินใจยาก

 

ซึ่งในสัปดาห์นี้จะเป็นตัวตัดสิน ย้ำว่า ตนเองอายุยังน้อยทำงานได้อีกนาน และพร้อมทำงานมีประสบการณ์ เป็นรองผู้ว่าฯมาแล้ว 4 ปี อีกทั้งยังขอเป็นผู้ว่าฯ ที่หาเงินได้ใช้เงินเป็น ไม่รอเงินสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างเดียวและไม่มีผู้ว่าคนไหนเคยทำ ซึ่งไม่เชื่อผลสำรวจ เพราะมีการพลิกโพลได้ตลอด

 

เนื่องจากเป็นการสุ่มกลุ่มตัวอย่าง 1 พันคนจากผู้มีสิทธิ์ 4 ล้านคนอาจจะเป็นการชี้นำได้บางส่วนเท่านั้น และจากการเลือกตั้งสนามอื่นที่ผ่านมาก็ชี้ให้เห็นว่าโพลไม่ตรง และมีหลายครั้งที่เป็นโพรงยุทธศาสตร์ให้เป็นไปตามที่ต้องการ พร้อมยอมรับว่า การมีบุคคลที่มีชื่อเสียงออกมาให้การสนับสนุนตนเองนั้น จะเป็นการขยายฐานความนิยมและถือเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนให้กับตนเอง

 

ส่วนที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) และอดีตเลขาธิการ กปปส. ออกมาเคลื่อนไหวสนับสนุนนั้น นายสกลธี มองเป็นสองมุม มีทั้งคนสนับสนุน และไม่สนับสนุน

 

ซึ่งนายสุเทพ เป็นเหมือนอาจารย์ตั้งแต่อยู่พรรคประชาธิปัตย์ หากไม่สนับสนุนคือเรื่องแปลก ซึ่งยอมรับว่า บางจะมีบางส่วนที่ทำให้มีคะแนนความนิยมเพิ่มขึ้น แต่เชื่อว่าถึงเวลาคน กทม. ก็จะมีวิธีการเลือกคนของเขาเอง ซึ่งมักจะพลิกล็อกและเหนือความคาดหมายเสมอ ไม่สามารถเดาผลอะไรได้

 

นายสกลธี ยังไม่กังวลในช่วงโค้งสุดท้าย เพราะอยู่กับการเมืองมากว่า 16 ปี รู้ว่าอะไรทำได้หรือไม่ได้ ส่วนเรื่องเฟคนิวส์ เชื่อว่า ประชาชนจะมีวิจารณญาณพิจารณา ก่อนย้ำว่า ตนทำอย่างเต็มที่แล้วจนถึงวันเสาร์ที่ 21 พ.ค.นี้ เวลา 18.00 น.

 

ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับประชาชนว่าจะชอบในสิ่งที่ตนเสนอหรือไม่ พร้อมเชื่อว่า การเลือกตั้งในครั้งนี้ จะมีคะแนนแฝงมากพอสมควร เพราะแต่ละบุคคลมีฐานคะแนนเสียงของตัวเอง เพียงแต่ยังไม่รู้ว่าการโหวตแบบยุทธศาสตร์ถึงเวลาจะใช้ได้มากน้อยแค่ไหน แต่มองว่าสุดท้ายการเลือกตั้งของคน กทม. นั้น จะเป็นการคิดไตร่ตรองมาแล้ว และผลที่ออกมาจะเป็นทางที่ดีต่อบ้านเมืองเสมอ

 

นายสกลธี ยังมองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเรื่องดี อย่างน้อยจะทำให้คน กทม. เห็นว่าบางครั้ง ไม่ได้มีทางเลือกแค่ซ้ายกับขวา มีทางเลือกที่มากกว่านั้น เป็นสิ่งที่เร่งให้ผู้สมัครฯแต่ละคน ต้องแสดงผลงานและวิสัยทัศน์ ให้เต็มที่เพื่อให้ประชาชนเลือก ก่อนตอบว่ารู้สึกสนุก

 

เนื่องจากว่างเว้นลงหาเสียงมาตั้งแต่ปี 2554 รู้สึกเหมือนย้อนวันวาน แต่เหนื่อยหน่อยเพราะเดิมลง ส.ส.เป็นลูกทีมแต่คราวนี้มาเป็นหัวหน้าทีม และนับจากวันนั้นเดินมาไกลพอสมควร

 

ส่วนที่โดนโจมตีเรื่องใดมากที่สุดนั้น นายสกลธี ระบุว่า เรื่องที่ตนเคยร่วมชุมนุมกับ กปปส. เป็นหลัก แต่ยืนยัน ยึดมั่นในอุดมการณ์ และสิ่งที่ทำในขณะนั้นร่วมกับคนหลายล้านคน เพราะฉะนั้นเรื่องอดีตตรวจสอบได้ ไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไร ส่วนกรณีที่พบมีการนำรูปไปเชียร์นายสกลธีนั้น ยอมรับว่า ตนเพิ่งเห็นเช่นกัน ซึ่งขณะนี้มีปฏิบัติการไอโอเยอะพอสมควร เพราะมีบางคนเชียร์ทุกเบอร์ทุกฝ่าย ก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ บางทีอาจจะโดนแกล้ง

 

ส่วนวลีที่ผู้สมัครฯบางคน กล่าวว่าผู้ว่าฯ กทม. มาคนเดียวไม่ได้ ต้องมี ส.ก.ร่วมด้วย นายสกลธี กล่าวว่า ตนเห็นต่าง เพราะ ส.ก.มีหน้าที่ตรวจสอบ และถ้าหากมี ส.ก.มาจากพรรคเดียว ก็จะทำให้เป็นเรื่องยากในการตรวจสอบ และถึงแม้ว่าตนจะไม่มี ส.ก.แม้แต่คนเดียว แต่ก็มีทีมงานที่เป็นอิสระ มีความสามารถมากกว่า และตนก็ไม่อยากจะส่งคนที่ไม่เหมาะกับงานพึ่งแต่โควต้าพรรคเช่นกัน

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube