พล.อ.ประวิตร มอง การเมืองเมียนมาเป็นเรื่องภายในประเทศ กำชับเข้มชายแดนป้องกันกันโควิด ไม่รู้ประชุม พปชร.
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีเหตุความวุ่นวายทางการเมืองประเทศเมียนมา ว่า เป็นเรื่องภายในของประเทศของเมียนมา แต่เราต้องเฝ้าระวังเรื่องการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามแนวชายแดนเท่านั้น
ทั้งนี้ ยังกล่าวแสดงความเสียใจกับตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากกรณีเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดรถกระบะเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ศรีสาครจังหวัดนราธิวาสส่งผลให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 5 นาย ว่า ได้สั่งการให้แม่ทัพภาคที่4 เข้าไปสืบสวนสอบสวนพร้อมยืนยันว่าฝ่ายความมั่นคงมีการติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังอยู่แล้ว โดยเฉพาะการป้องกันการก่อเหตุซ้ำ
อย่างไรก็ตาม สื่อไม่ได้รับคำตอบในประเด็นการเมือง ว่าจะมีการเรียกประชุมพรรคพลังประชารัฐ เมื่อใด โดยตอบสั้นๆ ว่ายังไม่ทราบ
ปัดตอบกลุ่มวีโว่จัดชุมนุมหน้าสถานทูตเมียนมา ย้ำเหตุการณ์ที่เกิดไม่ถูกโยงการเมืองไทยแน่นอน
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีกลุ่มวีโว่ เตรียมนัดชุมนุมที่หน้าสถานทูตเมียนมา เวลา 15.30 น. เพื่อเรียกร้องให้อาเซียน ไม่รับรองการยึดอำนาจ ว่า เป็นเรื่องของม็อบ อย่ามาถามตน ตนไม่รู้เรื่อง ส่วนจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างไทยและเมียนมา หรือไม่ ก็เป็นเรื่องของสถานทูตฯ
ส่วนเมื่อเกิดการยึดอำนาจในเมียนมา จะทำให้นักการเมืองเมียนมา เดินทางหลบหนีเข้ามาในประเทศไทยหรือไม่ ก็ได้ย้อนถามผู้สื่อข่าวทันที ว่า จะมีไหมละ คุณรู้ไหม ยังไม่มี ยังไม่มีการพูดคุยทางเมียนมา
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมียนมา จะถูกนำไปโยงประเด็นการเมืองของไทยในอดีต เหมือนสุภาษิต “ตีวัวกระทบคราดหรือไม่” อันนี้สื่อคิดไปเอง จะโยงได้อย่างไร เรามีเหตุการณ์อะไรหรือไม่ มีสถานการณ์ที่เกี่ยวกับการเมืองหรือไม่ ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรเลย
ส่วนจุดยืนของประเทศไทยกับสถานการณ์เมียนมานั้น เดี๋ยวต้องดูก่อน
กำชับแก้จราจร อย่างจริงจัง รองรับการขยายตัวเขตเมือง เชื่อมต่อเครือข่ายเส้นทางให้ครอบคลุมพื้นที่
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ครั้งที่ 1/2564 โดยได้รับทราบรายงานความคืบหน้า การดำเนินงานตามแผนแม่บท ขนส่งมวลชน ทางรางในเขตกทม. และปริมณฑล ที่สำคัญ ได้แก่
- โครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ปัจจุบัน เปิดให้บริการแล้ว 9 เส้นทาง โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 6 เส้นทาง และโครงการส่วนต่อขยายเพิ่มเติมอีก 10 เส้นทาง
- รับทราบผลการศึกษาความเหมาะสม โครงการขอนแก่น Smart City โดยมีการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน และไม่มีข้อคัดค้าน
- รวมทั้งรับทราบความคืบหน้า โครงการรถไฟฟ้ารางเบา จ.ภูเก็ต (สนามบินภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง)
จากนั้น คจร.ได้พิจารณาเห็นชอบ การดำเนินโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-ลำสาลี (บึงกุ่ม) และเห็นชอบ แผนการพัฒนาดำเนินงาน ติดตั้งระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง แบบไม่มีไม้กั้น (M-Flow) บนทางหลวงพิเศษ ระหว่างเมือง ของกรมทางหลวง และบังคับใช้กม.กับผู้หลีกเลี่ยงฝ่าฝืน ไม่ชำระค่าธรรมเนียมผ่านทาง
ซึ่งได้ให้ความสำคัญ กับการแก้ปัญหาจราจร มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่เขตเมือง ซึ่งมีการขนส่ง การเดินรถ อย่างหนาแน่น จึงได้กำชับ หน่วยงานที่รับผิดชอบ จะต้องเร่งรัด และบูรณาการทำงานร่วมกันอย่างจริงจัง เพื่อให้โครงการต่างๆ มีความก้าวหน้า และสามารถแก้ปัญหาการจราจร การขนส่ง อย่างได้ผล เพื่อรองรับการขยายตัวเขตเมือง และเชื่อมต่อเครือข่ายเส้นทางให้ครอบคลุมพื้นที่ ส่งเสริมการยกระดับคุณภาพชีวิต ประชาชน และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ ต่อไป
เชื่อ พปชร. ลงแข่งเลือกตั้งนครศรีธรรมราช ไม่มีปัญหา มองเป็นเรื่องของจังหวัด
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณี นายอันวาร์ สา และ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า ถ้าพลังประชารัฐไม่ยึดมารยาทในการส่งเลือกตั้งซ่อม ส.ส. จังหวัดนครศรีธรรมราช แทนนายเทพไท เสนพงศ์ ก็ไม่ต้องยึดมารยาทการเมือง ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า แล้วแต่จะคิด
ส่วนเชื่อมั่นว่า พรรคพลังประชารัฐ จะคุมเกมในสภาใช่หรือไม่นั้น ตนยังไม่รู้ว่าเขาคิดกันยังไง แต่พรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องร่วมมือกัน
ส่วนประเด็นที่ว่า ถ้าพลังประชารัฐไม่ยึดมารยาททางการเมือง ประชาธิปัตย์ก็จะไม่ยึดบ้าง นั้นก็แล้วแต่
เมื่อถามว่า ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลร่วมมือกัน ทำไมพลังประชารัฐจึงส่งแข่งกับประชาธิปัตย์ ทำไมไม่หลีกทางให้ ได้รับคำตอบว่า คราวที่แล้วเราแพ้นิดหน่อย ก็สู้กันคราวที่แล้ว แล้วคนก็อยากลง จะทำอย่างไร พร้อมเชื่อว่าจะไม่บานปลาย เพราะเป็นเรื่องของจังหวัด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news