Home
|
ข่าว

นายกฯ ดันไทยเป็นศูนย์กลางการแพทย์-สาธารณสุขโลก

Featured Image
นายกฯ ดันไทยเป็นศูนย์กลางการแพทย์-สาธารณสุขโลก พร้อมสั่งทบทวนแผนสมรรถนะนักเรียน ย้อนหลัง 14 ปี ยันไม่ได้ไม่สนับสนุน แต่ต้องทำให้สมบูรณ์- ครบถ้วนเสียก่อน

 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวถึง การผลักดันให้ไทยเป็น เมดิคอล & เวลเนส ฮับ หรือศูนย์กลางทางการแพทย์และสาธารณสุขของโลก ว่า ล่าสุดประเทศไทยได้รับเลือกเป็นสำนักงานเลขาธิการศูนย์อาเซียน ด้านการรับมือกับภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข และโรคอุบัติใหม่

 

ซึ่งจะเปิดสำนักงานในเดือนส.ค.นี้ ขณะเดียวกันไทยได้รับการยอมรับและชื่นชมกับการรับมือกับสถานการณ์โควิดได้ดี เป็นลำดับต้นๆ ของโลก มีความได้เปรียบและความพร้อม ซึ่งทั่วโลกยอมรับ เช่นเดียวกันเรามีบุคลากรทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และมีการใช้นวัตกรรม และเทคโนโลยีขั้นสูงในการให้บริการ มีโรงพยาบาล และศูนย์การแพทย์ที่ได้รับการรับรอง ในระดับสากล และมี JCI ถึง 58 แห่ง

 

ซึ่งมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเป็นอันดับที่ 4 ของโลก ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจว่าบุคลากรทางแพทย์ของไทย ไม่แพ้ใครในโลก และเชื่อมั่นว่า เราจะสามารถก้าวเป็นที่ 1 ในประเทศชั้นนำของโลก

 

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้หารือเน้นย้ำ ในเรื่องของสมรรถนะด้านการศึกษา เรื่องการประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี 2551 ซึ่งตนได้สั่งให้กลับไปทบทวนแผนปี 2551 ก่อน ต้องทำให้สมบูรณ์ ปรับวิธีการสอน ให้เป็นในลักษณะของ Active Learning รู้จักคิด เป็นทำเป็น

 

ดังนั้นขอให้กลับไปทำแผนปี 2551 ให้สมบูรณ์และครบถ้วน แล้วค่อยว่ากันใหม่ ไม่ใช่นายกฯไม่สนับสนุนอะไรทั้งสิ้น แต่ต้องดูพื้นฐาน ว่าของเดิมเป็นอย่างไร หากยังไม่ครบก็ต้องทำให้ครบ ซึ่งเรื่องนี้เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้

 

ในเรื่องของการปฏิรูปการศึกษาพล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ ว่า มีหลายอย่างที่ดีขึ้น บางอย่างก็ยังลดลงอยู่ เนื่องจากสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ซึ่งก็คาดหวังว่าจะยุติลงโดยเร็ว มิเช่นนั้นจะเดือดร้อนกันไปทั้งโลก

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube