Home
|
ข่าว

นายกฯ ยึดเวที Better Thailand ร่ายยาวแถลงผลงานรัฐบาล

Featured Image
นายกฯ ยึดเวที Better Thailand ร่ายยาวแถลงผลงานรัฐบาล ย้อนเหตุผลยึดอำนาจ เพราะบ้านเมืองไม่สงบ ประเทศไปต่อไม่ได้ เดินตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มุ่งแก้ปัญหาเพื่อประชาชาชน

 

 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “อดีต ปัจจุบันและอนาคต ประเทศไทยที่ดีกว่าเดิม” ภายในงาน ถามมาตอบไป
” Better Thailand Open Dialogue” โดยพูดย้อนถึงวันที่ตัดสินใจเข้ามาบริหารประเทศเมื่อ 7 ปีก่อน ทุกคนคงจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศ คนไทยไม่มีความสุข บ้านเมืองไม่สงบ
เดินหน้าต่อไปไม่ได้ หลายคนก็อายุยังน้อย ยังโตไม่ทัน หลายคนยังไม่เกิดด้วยซ้ำไป เพราะฉะนั้น ต้องเตรียมการตรงนี้ไว้ล่วงหน้า เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านั้นเตรียมการไว้เพื่ออนาคต
โดยก่อนหน้าที่จะเข้ามาตนตัดสินใจเข้ามาแล้วก็พยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด แม้จะมีปัญหาอุปสรรคอุปสรรคมากมายที่ต้องเข้ามาแก้ไข

 

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า หากย้อนกลับไปเมื่อมีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เข้าใจดีว่าต้องแลกกับการถูกกล่าวหาว่าประเทศของเราไม่เป็นประชาธิปไตย ซึ่งในเวลานั้นคสช.
ได้พยายามพิสูจน์ให้ประชาชนเห็นว่าทุกคนสามารถที่จะมีเสรีภาพทางความคิดภายใต้กรอบกฎหมายที่ผ่อนปรน แม้ในช่วงที่เป็นรัฐบาลคสช.จะมีอำนาจพิเศษมากมาย แต่ตนก็ไม่ได้ใช้ในทุกกรณี ใช้เท่าที่จำเป็นเพื่อแก้ไขปัญหาเท่านั้น ในส่วนของกระบวนการยุติธรรม การตรวจสอบต่างๆ องค์กรอิสระยังคงทำหน้าที่ได้อย่างอิสระโดยตนจะไม่เข้าไปเข้าร่วมการทำงานของแต่ละคน

 

โดยวัตถุประสงค์ที่เข้ามาเพื่อดำรงไว้ของการสงบของประเทศและบ้านเมืองทำให้นานาชาติเกิดความเชื่อมั่นของประเทศไทยทุกคนคงได้เห็นแล้วว่าในช่วงสมัยนั้นรัฐบาลไทยได้รับการยอมรับ
จากนานาชาติและประเทศของเรามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเยี่ยมเยียนกว่า 40 ล้านคน

 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความจำเป็นต้องมี Master plan คือแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี พ.ศ. 2561-2580 ประกอบไปด้วย ด้านความมั่นคงการสร้างความสามารถในการแข่งขัน การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้านการจัดสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ มีทั้งหมด 6 ด้าน

 

ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี จะเป็นแผนภาพส่วนใหญ่ที่ทำให้ทุกภาคส่วนในสังคมได้เข้าใจและเห็นภาพว่า เพื่อเดินไปสู่เป้าหมายที่ตรงกันเป็นกรอบเป้าหมายในการพัฒนาประเทศทำให้เกิดการพัฒนาที่ต่อเนื่องตามแผนระยะสั้นระยะปานกลาง แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติแผนปฏิรูปประเทศแผนพัฒนาเศรษฐกิจแผนความมั่นคง
ที่เป็นกลไกสำคัญในการถ่ายทอดการขับเคลื่อนประเทศให้บรรลุเป้าหมายและวิสัยทัศน์ต่างๆ

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเองได้เข้าสู่รัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งในปี 2562 ได้มีโอกาสสานต่อการบริหารงานภายใต้รัฐธรรมนูญปัจจุบันตนและคณะรัฐมนตรีทุกคนได้ร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศมาอย่างต่อเนื่องโดยรัฐบาลได้ดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

ซึ่งเป็นกรอบเป้าหมายและแนวทางในการพัฒนาประเทศให้กับหน่วยงานของรัฐและทุกภาคส่วนให้ปฏิบัติตาม โดยจะมีการวัดผลประเมินผลและทบทวนแผนอย่างสม่ำเสมอตามสถานการณ์ที่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไป ตามความจำเป็นของประเทศ

 

โดยในระหว่างนั้นรัฐบาลได้พยายามพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ? เพื่อสร้างความเข้มแข็งของอุตสาหกรรมเดิม ยกระดับขีดความสามารถโดยสร้างอุตสาหกรรมใหม่ ให้สอดรับกับบริบททางเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป รัฐบาลนี้ได้สานต่อนโยบายการส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมายที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2558 เพื่อทำให้ประเทศไทยสามารถที่จะสร้างฐานรายได้และเพิ่มการจ้างงานใหม่ รวมทั้งการขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนในเวทีโลก

 

โดยการเกิดวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 ตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งเป็นวิกฤติโลกที่ไม่ได้ก่อ ส่งผลกระทบรุนแรงต่อการถดถอยทางเศรษฐกิจของทุกประเทศในโลก รวมถึงประเทศไทยถูกประเมินว่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุด ในระดับต้นๆ ของโลก เพราะเศรษฐกิจไทยพึ่งพาการท่องเที่ยวกว่าร้อยละ 20 ของ GDP การระบาดของโควิด-19 ทำให้ทั่วโลกหยุดเดินทางและเครื่องจักรการท่องเที่ยวไม่สามารถสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยได้เหมือนก่อน

 

ซึ่งวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 นี้ นับเป็นโจทย์ที่ยาก จำเป็นต้องปิดประเทศ ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ในการเยียวยา ช่วยเหลือประชาชน เพื่อตั้งหลัก ประคับประคอง และกระตุ้นเศรษฐกิจ การต่อสู้กับการระบาดของ โควิด-19 ไม่มีอะไรที่แน่นอน

 

พร้อมยืนยันว่านโยบายต่างๆ ที่ออกมา ได้คำนึงถึงการสร้างความสมดุล ทั้งมิติด้านสุขภาพและมิติทางเศรษฐกิจมาโดยตลอด รัฐบาลต้องบริหารจัดการให้ประเทศสามารถเดินหน้าต่อได้
โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ที่สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประเทศ ทั้งนี้? แม้เปิดประเทศแล้ว ยังจำเป็นต้องระมัดระวัง ยังต้องตระเตรียมความพร้อม ทั้งวัคซีนและยารักษาไว้อย่างเพียงพอ เพราะวิกฤตการแพร่ระบาดยังไม่จบสิ้น

 

อีกทั้งประเทศไทย ยังได้รับผลกระทบของวิกฤตจากความขัดแย้ง ระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งเป็นการเผชิญวิกฤติซ้อนวิกฤติ หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด–19 โดยโลกแบ่งเป็นสองขั้ว ทรัพยากรที่เคยสมดุลต้องขาดแคลน มีผลให้ราคาสินค้า ราคาพลังงาน และค่าครองชีพปรับตัวสูงขึ้น สร้างความหวาดกลัวว่าสงครามจะยืดเยื้อ

 

สิ่งสำคัญที่สุดในวันนี้ คือ การแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เช่น วิกฤติพลังงาน สินค้าขาดแคลน ความยากจน เพื่อให้ประชาชนอยู่รอดอย่างพอเพียง รัฐบาลจึงได้เข้ามาดูแลประชาชนเพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชน ด้วยมาตรการต่างๆ โดยเฉพาะในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ

 

โดยรัฐบาลตระหนักว่าสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ มีความไม่แน่นอน และอาจยืดเยื้อ โดยรัฐบาลจะติดตามประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และต่อเนื่อง และพร้อมที่จะปรับปรุงแนวทางการช่วยเหลือ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด กับประเทศชาติ และประชาชน ในระยะต่อไป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube