“ชัชชาติ” ลงพื้นที่สำรวจพื้นที่ว่างเปล่าข้างสถานีรถไฟฟ้า
“ชัชชาติ” ลงพื้นที่สำรวจพื้นที่ว่างเปล่าข้างสถานีรถไฟฟ้าวงศ์สว่าง ทำเป็นพื้นที่สีเขียวเพื่อคนกทม.ใช้ประโยชน์ สนใจนำวัวเข้ามาเลี้ยง-ปลูกกล้วยในพื้นที่
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าฯ กทม. และนายจักกพันธุ์ ผิวงาม อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. นายภิมุข สิมะโรจน์ อดีตรองหัวหน้าพรรคกล้า คณะทำงานสำนักงานเขตบางซื่อและตัวแทนภาคเอกชน ลงพื้นที่ สำรวจพื้นที่ว่างเปล่า บริเวณลานด้านข้างสถานีรถไฟฟ้ามหานคร สายสีม่วง สถานีวงศ์สว่าง ที่ทางเอกชนมอบให้สำนักงานเขตบางซื่อจัดทำเป็นพื้นที่สวนสาธารณะในเมือง
โดยนายชัชชาติ กล่าวว่า วันนี้ที่มาเป็นพื้นที่เอกชน อยู่กลางเมืองใกล้สถานีรถไฟฟ้าวงศ์สว่างมีข้อมูลว่า ทางเอกชนเคยติดต่อให้ กทม.ใช้งานตั้งแต่ปี 2562 แล้วแต่ยังไม่มีการปรับปรุงใดๆ จึงตั้งใจมาสำรวจ ฉะนั้นต่อจากนี้ถ้ามีเอกชนรายไหนที่มีพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ และต้องการให้กทม. ได้พัฒนาที่ดินมาทำสวนสาธารณะ ก็สามารถติดต่อกับสำนักงานเขตในพื้นที่ได้ นี่จะเป็นการช่วยกันของหลายฝ่ายให้ได้พื้นที่สีเขียวโดยที่ กทม.ไม่ต้องใช้งบประมาณมาก
โดยโครงการนี้อาจต้องใช้ระยะเวลา 5 -10 ปีต่อเนื่อง เพื่อจะได้ดูแลต้นไม้ได้เต็มที ปรับปรุงพื้นที่ได้สมบูรณ์ ตนคิดว่าวิธีนี้เป็นการแบ่งปันอย่างหนึ่งที่จะทำให้เมืองมีความน่าอยู่เพิ่มมากขึ้น เพราะลำพังแล้วกทม.ไม่ได้มีงบประมาณมากมายที่จะซื้อที่ดินในการทำสวนสาธารณะกลางเมือง จากนี้ยังเชื่อว่ามีอีกหลายที่ที่ยังไม่ได้นำที่ดินไปทำอะไรเพราะฉะนั้นแล้ววิธีนี้อาจจะดีกว่าการนำที่ดินเอาไปปลูกกล้วย
ทั้งนี้ แม้ว่าการนำที่ดินมามอบให้ กทม.ทำสวนสาธารณะอาจจะไม่ได้ช่วยลดภาษีมากแต่ก็ขอเป็นทางเลือกแรงจูงใจเล็กๆ ให้นำที่ดินให้กทม. ระยะแรกในการปรับปรุงพื้นที่อาจจะไม่ได้นาน เน้นการปรับให้มีทางเดิน มีแสงสว่างเรื่องนี้ไม่น่าจะยากเกินไป ไม่ต้องทำให้หรูหรามากเพียงแต่ทำให้คนสามารถใช้งานได้
ส่วนประเด็นที่มีการนำวัวเข้ามาเลี้ยง ปลูกกล้วยในพื้นที่ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจเพราะ หลายที่มีการปรับใช้งานที่ดินของตน เพื่อสอดคล้องกันกับประกาศของกระทรวงการคลังร่วมกับกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ ที่มีการระบุว่าภาษีที่ดินสำหรับพื้นที่ทำเกษตรกรรมจะอยู่ในอัตราที่ต่ำ แต่ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุว่าต้องปลูกอะไรปลูกจำนวนเท่าไหร่เป็นขั้นต่ำ เรื่องนี้กทม.มีอำนาจประเมินภาษีแต่ก็ต้องประเมินตามอำนาจตามพรบ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเท่านั้น
ทั้งนี้ บางอย่างเอกชนอาจจะต้องช่วยลงทุนด้วยเพราะถ้าหมดสัญญาที่ให้กทม.ทำสวนสาธารณะแล้วต้นไม้หรือสิ่งปลูกสร้างก็จะตกเป็นของเอกชน เรื่องนี้ต้องคุยกันอีกครั้งหนึ่งโดยจะต้องให้เกิดประโยชน์และยุติธรรมกับทั้งสองฝ่าย
นอกจากนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงการย้ายศาลาว่าการกรุงเทพมหานครให้ไปอยู่ที่เขตดินแดงเป็นที่เดียวว่า อาจจะไม่ได้ทำเสร็จสิ้นภายในเดือนหรือสองเดือนเพราะมีสำนักงานเก่าค้างอยู่ แต่ต้องมีการดูพื้นที่จราจร
พร้อมกล่าวว่า จะมีการตั้งคณะทำงานเพื่อผลักดันการย้าย แต่ส่วนตัวคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีเพราะจะได้เกิดการรวมศูนย์ เพราะแต่ละพื้นที่มีค่าในอนาคตอาจจะทำเป็นพื้นที่ที่มีประโยชน์ได้ แต่ทุกอย่างไม่ได้ย้ายได้ภายในพริบตาแต่ก็ต้องมีก้าวแรก อาจจะต้องใช้เวลาสองถึงสามปี เตรียมโครงสร้างเตรียมพื้นที่ แต่ถ้าไม่เริ่มนับหนึ่งไม่มีนโยบายสุดท้ายก็จะไม่มีคนทำ
สำหรับปัญหา ข้อร้องเรียนของกลุ่มเจ้าหน้าที่สังกัดกทม. ยอมรับว่าได้รับจดหมายมาบ้างแล้ว ปัญหาที่ชัดเจนจะมีเรื่องของสวัสดิการที่น้อย การเบิกจ่ายเงินล่วงหน้ากรณีรักษาคนในครอบครัว การทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราวมานานแต่ไม่ได้รับการบรรจุ หรือแม้แต่เรื่องกระบวนการแต่งตั้งที่ไม่ยุติธรรม ทั้งนี้ นายชัชชาติ กล่าวว่า ต้องเข้าไปสร้างขวัญกำลังใจกลุ่มคนเหล่านี้เพราะถ้าไม่มีคนช่วยทำความสะอาดกทม. เมืองก็จะสกปรกไปกว่านี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews