“วิษณุ” ชี้ หากร่าง พรบ.งบ 66 ไม่ผ่านสภาวาระแรกรัฐบาลต้องเลือกยุบสภาหรือลาออกนั่งรักษาการ แต่ยอมรับส่งผลกฎหมายลูกสองฉบับชะงัก
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีหากร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 ไม่ผ่านวาระที่ 1 จะต้องกลับไปใช้พ.ร.บ.เดิมใช่หรือไม่ ว่า ถ้าร่างพระราชบัญญัติงบประมาณไม่ผ่านรัฐบาลจะต้องยุบสภาหรือลาออก โดยระหว่างนั้นเมื่อถึง 1 ต.ค.ก็จะใช้งบประมาณ 2565 ไปพลางก่อน ซึ่งสำนักงบประมาณจะเป็นผู้กำหนดสัดส่วนที่จะใช้ไม่ได้ให้ใช้เต็มจำนวน ซึ่งสามารถบริหารงานได้จนกว่าจะมีงบประมาณใหม่ โดยรัฐบาลเดิมจะเป็นเพียงรัฐบาลรักษาการณ์ เพียงแต่ว่าโครงการใหม่ๆจะเกิดขึ้นไม่ได้ เนื่องจากไม่อยู่ในบัญชีงบประมาณปี 2565
ซึ่งถือเป็นข้อบังคบตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ที่รัฐบาลจะยุบสภา นายวิษณุ ระบุว่า เป็นเพียงประเพณีเท่านั้น ซึ่งไม่ควรไม่ปฏิบัติตาม เพราะเมื่อเป็นประเพณีต้องปฏิบัติตามเช่นนั้น ไม่จำเป็นต้องยุบสภาทำเพียงลาออกก็ได้ ซึ่งหากนายกรัฐมนตรีลาออกถือว่าลาออกทั้งคณะ เพียงแต่ได้รักษาการต่อไปเท่านั้น ซึ่งการพิจารณาพรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และร่าง พรป.ว่าด้วยพรรคการเมืองจะต้องชะงักลง เพราะเมื่อไม่มีสภาก็จะไม่มีการพิจารณา และวุฒิสภาก็ไม่สามารถประชุมได้
เมื่อถามย้ำว่าวิธีการยุบสภาหรือลาออกจะดีกว่ากันหากร่างพ.ร.บ.งบ 66 ไม่ผ่าน นายวิษณุ ระบุว่า ก็แล้วแต่ว่าแต่ละครั้งจะเอาอย่างไร พอไม่ผ่านก็ต้องเสนอใหม่อยู่ดี แต่หากเป็นการลาออกและรัฐบาลใหม่เข้ามา กว่าจะเสนอเข้าสภา และเมื่อองค์ประกอบสภาไม่เปลี่ยน รัฐบาลใหม่เสนอไปก็อาจไม่ผ่านอีก ก็ยุบสภาเสียดีกว่า
ส่วนวิธีการที่จะมาแก้ไขนั้นนายวิษณุ ย้อนถามสื่อมวลชนว่า อย่าคิดไปในทางที่ไม่ให้เกิดเหตุแบบนั้น เพราะรัฐบาลไม่ได้คิดอย่างนั้น ซึ่งหากร่างพ.ร.บ.งบ 66 ไม่ผ่านจะต้องมีคำตอบจากรัฐบาลหรือไม่ว่าจะยุบสภาหรือลาออก นายวิษณุ ระบุว่า ไม่มีใครบอกว่าจะยุบหรือลาออก อยู่ดีๆก็ประกาศออกมาให้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งไม่มีกรอบระยะเวลากำหนด และไม่มีบทกำหนดตายตัวอยู่ในมาตราใดมาตราหนึ่ง โดยจะใช้จังหวะเวลาอันสมควร อาจจะทิ้งระยะเวลาไว้ 1 เดือนก็ได้ แต่ต้องจบที่อย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะหากไม่ผ่านการพิจารณาที่สภา ถือได้ว่าสภาไม่ไว้วางใจให้บริหาร
เมื่อถามย้ำว่ากฎหมายลูก 2 ฉบับที่จะชะงักจะออกมาในรูปแบบใดนั้น นายวิษณุ ระบุว่า ตนไม่ขอตอบว่าจะใช้แบบใด เพราะจะมีคนเห็นต่างได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะออกเป็นพ.ร.ก.หรือให้กกต.ประกาศ หรือเลือกไปเลยตามแบบรัฐธรรมนูญใหม่ พร้อมย่ำจะมีความเห็นต่างอยู่ดี และต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย หากศาลรัฐธรรมนูญมีความเห็นว่าใช้วิธีการนั้นๆไม่ได้ ก็เป็นอันว่าใช้ไม่ได้ ที่เลือกมาก็ใช้ไม่ได้ทั้งหมด
ซึ่งแสดงว่าทุกปัญหาหากเกิดขึ้นย่อมมีทางออกได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ ระบุว่า ตนได้ตอบไปหมดแล้ว ผู้สื่อข่าวจะไปสรุปอย่างไรก็แล้วแต่ เพราะมีทางออก แต่ทางออกนั้นอาจจะมีผู้เสียประโยชน์ไม่ยอมรับ และร้องศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเคยเกิดประเด็นดังกล่าวแล้ว และศาลก็วินิจฉัยให้โมฆะไปหลายครั้ง
ทั้งนี้ นายวิษณุ ระบุว่า ที่ผ่านมางบประมาณมีเพียงที่ต่างประเทศ เมื่อถามย้ำว่า การที่งบประมาณไม่ผ่านประชาชนจะตำหนิรัฐบาลอย่างแรงหากนำเรื่องงบประมาณมาเป็นการเล่นการเมืองหรือไม่นั้น ตนไม่ทราย ก่อนที่จะย้อนถามสื่อมวลชนว่าทำไมต้องมาตั้งคำถามห้อมล้อมตนว่า ร่างพ.ร.บ.งบ 66 จะไม่ผ่านความเห็นชอบ ขอให้ช่วยตามดูกันต่อไป
ส่วนมั่นใจว่าจะผ่านหรือไม่ ไม่ทราบเช่นกัน สื่อมวลชนถามตนมามาก ตนก็เริ่มหวั่นและตนไม่สามารถที่จะโหวตร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวได้เนื่องจากเป็นรัฐมนตรี พร้อมกับระบุว่า ตนเป็นฝ่ายไปอย่างเดียว แนวโน้มไม่มี มีแต่แนวนอน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews