“ศรีสุวรรณ” ร้อง กกต.เอาผิด “ชัชชาติ” ไม่เก็บป้ายหาเสียง ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่อาคารรัฐประศาสนภักดีศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ เพื่อขอให้พิจารณากรณีปรากฏป้ายรณรงค์หาเสียง ของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าฯกทม. อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 8 สืบเนื่องจากการหาเสียงเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ และ สมาชิกสภากรุงเทพฯ (ส.ก.) ที่ผ่านไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ปรากฏว่า ผอ.กกต กทม มีหนังสือแจ้งไปยังผู้สมัครเลือกตั้ง ทั้งผู้ว่าฯ และ ส.ก. ให้เร่งเก็บป้ายหาเสียงให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน ซึ่งหลังจากครบ 3 วันแล้ว ปรากฏยังมีผู้สมัครจำนวนมากที่ละเลยเพิกเฉย ปล่อยให้มีป้ายหาเสียงแขวนหรือติดตั้งในพื้นที่เต็มไปหมด ชี้ให้เห็นว่าผู้สมัครเหล่านี้ เน้นอยากจะเป็นตัวแทนของประชาชน แต่ไม่สนใจเรื่องของการปฏิบัติตามกฎหมายแต่อย่างใด จึงนำพยานหลักฐานแจ้งความต่อสถานีตำรวจนครบาลหลายแห่ง เช่น สน.ดอนเมือง สน.สายไหม สน.สุวินทวงศ์ สน.ลำผักชีและอีกหลาย สน. ต่อไป
ทั้งนี้ เนื่องจาก กกต. จะมีการพิจารณารับรองผู้สมัครหลายเขตจึงเห็นว่ากรณีการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายของผู้สมัครรับเลือกตั้ง เป็นประเด็นสำคัญที่ชี้ให้เห็นว่าผู้สมัครเหล่านี้ยังไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ยังละเลย ประสาอะไรจะไปบริหารบ้านเมือง คิดข้อบัญญัติท้องถิ่นต่าง ๆ ได้ เรื่องนี้จึงเป็นบทเรียนสำคัญที่สมาคมฯไม่ยอมจึงนำหลักฐานใช้ประกอบการวินิจฉัยของ กกต. รับรองผลเลือกตั้ง
นอกจากนี้ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวถึงการร้องเรียนเรื่อง ป้ายหาเสียงของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าฯกทม.และอดีตผู้สมัครหมายเลข 8 ว่า ไม่ได้สนใจเรื่องคะแนนเสียง 1.38 ล้านเสียง แต่สนใจว่าเมื่ออาสาเข้ามาเป็นผู้ว่าฯกทม. ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายเป็นเบื้องต้น ไม่ใช่นำคะแนนเสียงนับล้านแล้วมาฝ่าฝืน ยอมรับไม่ได้
พร้อมย้ำว่า เมื่อเสร็จสิ้นการหาเสียงจะเก็บไปทำกระเป๋าหรือผ้ากันเปื้อนเอง แต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏทำลวดลายไว้ ถูกประชาชนหยิบยกหรือลักนำไป ตลอดจนการไม่ระบุผู้ว่าจ้าง ซึ่งระบุชื่อชมรมคนรักกรุงเทพฯ แต่ในระเบียบต้องเขียนชื่อสกุล ซึ่งนายชัชชาติไม่อาจหลบเลี่ยงได้
ส่วนที่นายชัชชาติชี้แจงว่าไม่ได้เจตนาให้ประชาชนนำไปประยุกต์ต่อนั้นตนมองว่า ถ้าไม่เจตนา ก็ไม่ควรประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย แต่การโพสต์เช่นนั้นเป็นการเสแสร้ง เพราะทีมงานไม่ได้เก็บใช้เอง จึงถูกลักไปจนโพสต์ขายถึง 2,000-3,000 บาท แสดงว่านายชัชชาติเห็นด้วยที่ประชาชนนำเอาป้ายไปทำกระเป๋า จึงย้อนแย้งกัน
อย่างไรก็ตาม การยื่นหนังสือของตนนั้น ตนทำหน้าที่ไปตามครรลอง แต่ จริงๆ กกต. ควรออกระเบียบให้ชัดเจนว่าป้ายสามารถไปประดิษฐ์ หรือรีไซเคิลได้ แต่ในเมื่อกฎหมายไม่ได้เขียนเรื่องนี้ไว้โดยตรงเราก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายไว้ก่อน
ส่วนกรณีปรากฏป้ายหาเสียงผู้สมัครผู้ว่าฯ คนอื่นนอกจากนายชัชชาติยังปรากฏอยู่นั้น นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ผู้สมัครคนอื่นไม่ได้ทำแพทเทิร์นไว้ ก็มีที่ร้องว่ายังพบป้ายอยู่เกือบ 10 คน แต่ไม่คิดไปถึงขนาดเลือกตั้งใหม่ เว้นแต่ กกต. เห็นว่าการกระทำดังกล่าวอาจไม่สุจริตเที่ยงธรรม ก็ให้ใบเหลือและจัดการเลือกตั้งใหม่ได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews