ทอ.ย้ำซื้อ F-35 ทดแทนเครื่องบินรบปลดประจำการ
“เสธ ทอ.” นำเยาชนชมภาพยนต์ “ท็อปกัน 2” สร้างแรงบันดาลใจเรื่องความมั่นคง ย้ำ ซื้อ f-35 ตอบโจทย์ ทดแทนเครื่องบินรบทยอยปลดประจำการ
วันนี้ (1 มิ.ย.65) ที่ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล เสนาธิกาทหารอากาศเป็นประธานในการจัดกิจกรรม “Road To Top Gun ทัพฟ้าพาฝันปั้นนักบินรบ” ด้วยการนำเยาวชนจากโรงเรียนในพื้นที่รอบกองทัพอากาศมารับชมภาพยนตร์เรื่อง “ท็อปกัน มาเวอริค” โดยวัตถุประสงค์หลักก็คือการสร้างแรงบันดาลใจต่อเยาวชนผ่านสื่อ ซึ่งจุดเริ่มต้นในวันนี้อาจจะเป็นจุดที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต ถ้าเมื่อไหร่ที่เยาวชนอยากเป็นทหาร ถือเป็นความเสียสละที่ยิ่งใหญ่ ที่สำคัญที่สุดเมื่อเข้ามาเป็นทหารแล้วต้องเสียสละชีวิตปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตย
ส่วนที่ภาพยนต์ ท็อปกัน มาเวอริค มีการนำอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย เครื่องบินขับไล่โจมตี F-18 และ F-35 นั้น พล.อ.อ.พันธ์ภักดี กล่าวว่า เรื่องเทคโนโลยีและอากาศยานสมัยใหม่เป็นเรื่องที่เราจะต้องตามให้ทัน หากตามไม่ทันจะเสียเปรียบ หากจะเปรียบเทียบ F-35 จำนวน 1 เครื่อง สามารถต่อกรกับ F-16 จำนวน 3.27 เครื่อง หมายความว่าถ้าในอนาคตเราจะมี F-35 ซึ่งไม่ได้มาก แต่มีในจำนวนที่เหมาะสมเพื่อมาทดแทนเครื่องบินของกองทัพอากาศที่กำลังจะปลดประจำการ อย่างมีประสิทธิภาพและที่สำคัญที่สุด เราจะได้เรียนรู้และก้าวทันเทคโนโลยีในอนาคต ไปพร้อมๆกับประเทศชั้นนำ ในเรื่องอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ
เสนาธิการทหารอากาศ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้กองทัพอากาศทำงานกันหนักมากซึ่งเรามองว่าตั้งแต่ปี 2565-2575 เราจะต้องทยอยปลดประจำการเครื่องบินรบเพราะเครื่องบินเก่า จะมีค่าซ่อมบำรุงที่สูงมาก บางแบบค่าซ่อมบำรุง 3-5 เท่า หรือ 700,000-1,000,000 ต่อ 1 เครื่องบิน แต่ประสิทธิภาพก็เท่าเดิม ซึ่งเรามองว่าหากเราต้องปลดประจำการเครื่องบินรบออกไป 3 ฝูงบิน เราจะไม่มีโอกาสทดแทน 3 ฝูงบินแน่นอน เราจึงมาพิจารณาว่าเครื่องบินแบบไหนที่มีความสามารถและมีประสิทธิภาพ 1 ฝูงบิน แต่สามารถทดแทนได้ 3 ฝูงบิน สรุปว่า F-35 ตอบโจทย์ที่สุด
พร้อมย้ำว่างบประมาณในการจัดซื้อ F-35 หากได้ ก็เป็น งบประมาณของกองทัพอากาศ งบประมาณปี 2566 จำนวนกว่า 700 กว่าล้านบาท ในการที่จะเริ่มต้นโครงการ เช่น ปรับปรุงสถานที่อุปกรณ์สนับสนุนการบิน และอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องบินซึ่งอาจจะไม่ต้องจ่ายทั้งลำก็ได้ แต่ถ้าเริ่มต้นช้าก็อาจจะต้องยืดเวลาออกไปและอาจจะทบทวนโครงการอีกซึ่งครั้งนี้ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่
ผบ.ทอได้ให้คณะทำงานได้มาวิเคราะห์ และมีการสัมมนาทางด้านยุทธการระดมผู้เชี่ยวชาญของกองทัพอากาศทั้งหมด ด้วยการวิเคราะห์สถานการณ์ทางด้านความมั่นคงและการเมืองทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงในอนาคต สรุปเป็นแนวทางจึงเกิดโครงการนี้ขึ้นมา และถ้าหากไม่ผ่านในงบประมาณปี 2566 ก็ต้องยื่นต่อนายงบประมาณปี 2567 เพราะเป็นโครงการที่จะมาทดแทนในสิ่งที่เรากำลังจะขาด และวิเคราะห์ว่าจะมีปัญหาในอนาคตแน่นอน ไม่ได้สร้างใหม่ในสิ่งที่เรามีอยู่ให้เกินเลย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews