“สุทิน” ยันคำเดิมฝ่ายค้านไม่รับร่างพรบ.งบฯ66 ชี้รัฐบาลยังใช้จ่ายเงินเฟอะฟะ มุ่งเอามาแจกเหมือนขอทานจัดเลี้ยง วันนี้ให้โอกาสแจงทุจริตกองทัพเรือซื้อโดรนไร้อาวุธ หลังซื้อเรือดำน้ำจีนไม่มีเครื่องยนต์
นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงภาพรวมการอภิปรายในวันที่ 2 ว่า ยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งถือเป็นสิ่งที่น่าพอใจ แต่ก็สังเกตว่า รายการอภิปรายของฝ่ายค้าน เมื่ออภิปรายเสร็จก็จะมีข้อแนะนำ เพื่อให้ทางออก และให้เหตุผลถึงการไม่รับหลักการ แต่ทางรัฐบาลยังใช้คำเดิมคือ มีแต่ด่านและตำหนิ จึงอยากฝากรัฐบาลให้รับฟัง การอภิปรายของฝ่ายค้าน เพราะเป็นการเสนอทางออกที่เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะการอภิปรายวันสุดท้าย ในส่วนของพรรคเพื่อไทย เมื่อมีการอภิปรายเสร็จจะมีชุดอภิปรายทางออก
นอกจากนี้ นายสุทิน ยังระบุอีกว่าวานนี้ นายกรัฐมนตรี มีการชี้แจงโดยใช้อารมณ์ และยังตำหนิส.ส.ใช้เวทีอภิปรายงบประมาณ เป็นเวทีหาเสียงของพรรคการเมือง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ ควรที่จะรับฟัง และตักตวงให้เกิดประโยชน์ ซึ่งแม้ว่านายกรัฐมนตรี จะไม่ยอมรับแต่สมาชิกยอมฟังเพื่อนำไปแก้ไข และส่วนใหญ่อภิปรายว่า รัฐบาลยังคงทำแบบเดิม คิดแบบเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ ไม่ว่าจะปีไหน และรัฐบาลก็ยอมรับว่าทำเหมือนเดิม แต่ไม่มีใครอธิบาย ว่ามีอะไรใหม่จากเดิม
ทั้งนี้ นายสุทิน ยังกล่าวถึงการอภิปรายของน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ที่มีการอภิปรายถึงงบประมาณการจัดซื้ออากาศยานไร้คนขับหรือ โดรนของกองทัพเรือ แต่ไม่มีอาวุธตามสเปค แต่ไม่มีการชี้แจงจากหน่วยงานใด ตอนจึงอยากเรียกร้องให้ทางรัฐบาลหรือกองทัพออกมาชี้แจงให้ชัดเจน เพราะในระยะหลังมีการสั่งซื้ออาวุธแบบผิดปกติ ที่ก่อนหน้านี้จัดซื้อเรือดำน้ำ แต่ไม่มีเครื่องยนต์ และครั้งนี้ ซื้อโดรนแต่ไม่มีอาวุธ จึงเป็นเรื่องที่ส่อทุจริต รวมทั้งการตั้งงบประมาณในครั้งนี้ ส่อทุจริตในหลายจุด
สำหรับการอภิปรายในวันนี้ ในส่วนของพรรคเพื่อไทยจะเริ่ม ที่นายยุทธพงษ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ที่จะอภิปรายในประเด็นการทุจริต นายวิสาร เตชะธีรวัฒน์ ส.ส. เชียงรายพรรคเพื่อไทย และส.สพรรคร่วมฝ่ายค้านอภิปราย ซึ่งก็น่าจะเป็นที่น่าสนใจ โดยคาดการณ์ว่าน่าจะใช้เวลาไม่เกินเวลา 22.00 น. น่าจะมีการลงมติ
โดยในช่วงท้ายนายสุทิน ยังย้ำอีกว่า รัฐบาลยังคงตั้งงบประมาณเหมือนเดิมแต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงการตั้ง GDP การเติบโตของประเทศ ที่รัฐบาล ประมาณการไว้สูงเกินไป สวนทางความเป็นจริง มีการจัดงบที่มีการกู้มากขึ้น และมีการกีดกันในอนาคตไม่ตอบโจทย์ประชาชนและประเทศ พร้อมกับระบุว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ “เป็นการใช้งบในยามที่เราลำบาก ในยามที่เรายากจนคล้ายคนขอทาน ก็ยังใช้จ่ายเงินเฟอะฟะ และมุ่งหวังมาแจกเหมือนขอทานจัดเลี้ยง หากปล่อยให้ผ่านในวาระแรกแล้วไปแก้ในชั้นกรรมาธิการฯ คงแก้ได้ยาก ซึ่งตนไม่สามารถที่จะลงมติรับร่างพรบงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ได้ อยากให้เอากลับไปทบทวนตามเวลาที่พอมี ตามช่องของรัฐธรรมนูญ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews