NIA จับมือ 15 เครือข่ายพันธมิตร เปิดตัวโครงการ “เสือติดดาบ” พร้อมติดอาวุธ 7 ด้านให้ผู้ประกอบการนวัตกรรมไทย หวังยกระดับธุรกิจให้เติบโตในยุควิกฤต
สํานักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับพันธมิตรนวัตกรรมไทย เปิดตัวโครงการ “เสือติดดาบ” พร้อมลงนามความร่วมมือ “กลไกการส่งเสริมศักยภาพด้านนวัตกรรมเพิ่มเติมจากการสนับสนุนด้านการเงิน” กับหน่วยงานชั้นนำของประเทศทั้งภาครัฐ สถาบันการศึกษา ภาคเอกชนและสมาคมธุรกิจ รวม 15 หน่วยงาน เพื่อสร้างเครื่องมือช่วยเหลือและสนับสนุนผู้ประกอบการนวัตกรรมผ่านการเข้าถึงบริการและสิทธิประโยชน์จากหน่วยงานที่ปรึกษา/ผู้ให้บริการโดยให้การสนับสนุนธุรกิจ 7 ด้านครอบคลุมตลอดห่วงโซ่คุณค่าทั้งด้านการผลิต การบริหารจัดการและการขยายผลการเติบโตของนวัตกรรม เสมือนเป็นการติดอาวุธให้ผู้ประกอบการไทยสามารถใช้นวัตกรรมสำหรับสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจเพื่อต่อสู้และปรับตัวต่อภัยคุกคามทางด้านเศรษฐกิจในยุคปัจจุบัน
รศ.นพ. สรนิต ศิลธรรม ประธานกรรมการนวัตกรรมแห่งชาติ กล่าวว่า ท่ามกลางความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยจำเป็นต้องหาแนวทางการแก้ปัญหารูปแบบใหม่ ๆ เพื่อปรับตัวสอดรับกับวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของ “นวัตกรรม” โดย NIA ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการส่งเสริมและพัฒนาความสามารถด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมในประเทศมีเป้าหมายที่จะสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบนวัตกรรมแบบเปิด ผ่านการเชื่อมโยงเพื่อสร้างโอกาสการลงทุนและการเติบโตให้กับธุรกิจนวัตกรรม ดังนั้น NIA จึงได้พัฒนากลไกหรือเครื่องมือเพิ่มเติมจากการสนับสนุนด้านการเงิน (Non-Financial Support) โดยโครงการ “เสือติดดาบ” เป็นโครงการนำร่องที่จะเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการให้เข้าถึงบริการและสิทธิประโยชน์ของหน่วยงานผู้ให้บริการทั้ง 15 องค์กรพันธมิตร ซึ่งมีบทบาทในฐานะหน่วยงานเชื่อมโยงเครือข่าย ในการประสานการทำงานร่วมกันระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ (Focal Facilitator)
ดร. พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจทั่วโลกต้องเผชิญกับ 3 ภัยคุกคามที่ใหญ่ได้แก่ วิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลก การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม และการเกิดความเหลื่อมล้ำที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งภัยคุกคามเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจไทย รวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจนวัตกรรมที่ไม่มีแผนรองรับและต้องประสบกับความยากลำบากในการทำธุรกิจ ธุรกิจต่าง ๆ ต้องมีการปรับตัวเพื่อความอยู่รอดในสถานการณ์ปัจจุบันดังนั้น NIA จึงมีแนวทางในการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมีความรู้ ความสามารถด้านนวัตกรรม เพื่อเปลี่ยนจากผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)สู่ผู้ประกอบการฐานนวัตกรรม โดย “เสือติดดาบ” จะเป็นหนึ่งในโครงการที่สนับสนุนธุรกิจนวัตกรรมของผู้ประกอบการไทยได้เพื่อสร้างการเติบโตและสามารถยกระดับธุรกิจหรือปรับตัวให้สอดรับกับสถานการณ์ของโลกในปัจจุบัน
ดร. กริชผกา บุญเฟื่อง รองผู้อำนวยการด้านระบบนวัตกรรม กล่าวว่า “เสือติดดาบ เป็นกลไกการสนับสนุนรูปแบบใหม่ของ NIA ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความสามารถเชิงธุรกิจของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในการดำเนินธุรกิจนวัตกรรมเพิ่มเติมจากการสนับสนุนด้านการเงิน โดย NIA ทำหน้าที่เป็นเชื่อมโยงผู้ประกอบการธุรกิจนวัตกรรมที่มีความสามารถเปรียบเสมือน “เสือ” ให้เกิดการลับเขี้ยวเล็บจากการใช้บริการ และสิทธิพิเศษจากองค์ความรู้และเครื่องมือสนับสนุนในการพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมซึ่งเปรียบเสมือนการ “ติดดาบ” ให้กับผู้ประกอบการธุรกิจนวัตกรรม เพื่อให้สามารถปรับตัวและมีความได้เปรียบต่อการแข่งขันในสถานการณ์ที่เปลี่ยนและมีความไม่แน่นอนอยู่ตลอดเวลา
โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม 7 ด้านบริการ ได้แก่ กลุ่มการผลิต: 1) ด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์/บรรจุภัณฑ์/ โรงงานต้นแบบ (OEM) 2) ด้านมาตรฐานอุตสาหกรรมกลุ่มการบริหารงานภายใน: 3) ด้านการเงินและการบัญชี 4) ด้านการบริหารจัดการธุรกิจนวัตกรรม (แผนธุรกิจ/การตลาด) กลุ่มการขยายผลการเติบโตของธุรกิจ: 5) ด้านกฎหมายธุรกิจและทรัพย์สินทางปัญญา 6) ด้านการบริหารจัดการโลจิสติกส์ และ 7) ด้านการค้าระหว่างประเทศ
ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารของโครงการเสือติดดาบเพิ่มเติมได้ที่ https://regional.nia.or.th/
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews