“อนุทิน” สธ.ยกระดับให้บริการผู้ป่วยตับอักเสบ ซี เข้าถึงยารักษา ไม่มีเงื่อนไข นำร่อง จ.นนทบุรี พื้นที่แรก
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รอนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดโครงการนำร่องการเพิ่มการเข้าถึงยาต้านไวรัสเพื่อรักษาโรคไวรัสตับอักเสบซีเรื้อรัง ปี 2565 (Test and Treat) พร้อมมอบยาต้านไวรัสและชุดตรวจคัดกรองการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี ให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เข้าร่วมดำเนินการในพื้นที่ จ.นนทบุรี
นายอนุทิน กล่าวว่า โรคไวรัสตับอักเสบ บี และ ซี เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดภาวะตับอักเสบ ตับแข็ง และมะเร็งตับ ส่งผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจของประเทศไทย แม้จะมียาต้านไวรัสชนิดรับประทาน Sofosbuvir/Velpatasvir ที่มีประสิทธิภาพสูง รับประทานเพียง 12 สัปดาห์ สามารถรักษาโรคไวรัสตับอักเสบ ซี ให้หายขาดร้อยละ 93-100 โดยขึ้นทะเบียนอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ บัญชี จ 2 แต่ยังมีปัญหาผู้ติดเชื้อที่ยัง ไม่สามารถเข้าถึงยาได้
โดยช่วงปี 2561-2564 มีผู้ติดเชื้อได้รับยาเพียง 14,503 ราย เนื่องจากหลักเกณฑ์การใช้ยาที่ไม่ครอบคลุมผู้ป่วยทุกราย เช่น ข้อจำกัดเรื่องค่าปริมาณไวรัสต้องมากกว่า 5,000 IU/ml และผู้ติดเชื้อต้องอายุ ไม่เกิน 70 ปี รวมถึงการสั่งยาต้องเป็นอายุรแพทย์เฉพาะทางด้านระบบทางเดินอาหาร หรืออายุรแพทย์ที่ปฏิบัติงานด้านระบบทางเดินอาหาร ซึ่งไม่มีในทุกโรงพยาบาล
จึงมีมติเห็นชอบให้กรมควบคุมโรคดำเนินการ “โครงการนำร่องการเพิ่มการเข้าถึงยาต้านไวรัส เพื่อรักษาโรคไวรัส ตับอักเสบ ซี เรื้อรัง ด้วยวิธี Test and Treat” เพื่อให้ผู้ติดเชื้อรับยาต้านไวรัสโดยเร็ว หลังได้รับการตรวจวินิจฉัยยืนยัน ซึ่งกรมควบคุมโรคได้จัดทำโครงการนำร่องในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ อุดรธานี นครศรีธรรมราช และนนทบุรี เพื่อช่วยให้ผู้ติดเชื้อทุกรายได้รับการรักษา เข้าถึงยาโดยเร็ว โดยไม่ติดเงื่อนไข และวันนี้เป็นการเปิดโครงการนำร่องที่สถาบันบำราศนราดูร จ.นนทบุรี เป็นจังหวัดแรกที่เป็นต้นแบบดำเนินการ
ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรมควบคุมโรคสนับสนุนชุดตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบ ซี น้ำยาตรวจเพื่อยืนยันการติดเชื้อ
และสนับสนุนยาต้านไวรัสให้กับโรงพยาบาลและหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เข้าร่วมโครงการ โดยการนำร่องที่สถาบันบำราศนราดูร วันนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการประสานนโยบายความร่วมมือระหว่างภาคีเครือข่าย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews