“ชัชชาติ” ชมนายกฯ เป็นคนเมตตา ยันพร้อมลงพื้นที่แจงปัญหากทม. ลั่น 1 เดือนสัมปทาน BTS สายสีเขียวต้องคืบหน้า ปัดเคลียร์ใจปมรัฐประหาร
นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค. ถึงบรรยากาศการร่วมประชุมกับนายกรัฐมนตรี ว่านายกรัฐมนตรี ได้แสดงความยินดีกับตนเองและนายกเมืองพัทยา ที่ได้รับตำแหน่งใหม่ทั้งสองคน ให้ทำงานร่วมมือกัน ซึ่งการเดินชม ตึกภักดีบดินทร์ ในครั้งนี้ถือเป็นตึกใหม่ที่เพิ่งสร้างขึ้น ที่นายกรัฐมนตรี ได้พาเยี่ยมชมด้วยตนเอง
ส่วนได้ฝากงานอะไรเป็นพิเศษหรือไม่นั้น นายชัชชาติ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ขอให้ช่วยกันทำงาน ถือเป็นสิ่งที่ดีเพราะผู้ว่าฯกทม อยู่ภายใต้การกำกับของ ศบค.และวันนี้ถือว่าได้พบนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งแรกก็ถือว่าดี หลังเคยพบกันนานแล้ว และนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ใหญ่ที่มีความเมตตา โดยเน้นการประสานและทำงานเป็นหลักและตนเองก็ต้องร่วมงานกับรัฐบาลอยู่แล้ว เนื่องจากกรุงเทพฯอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงมหาดไทย
ทั้งนี้ นายชัชชาติ ยังระบุว่า วันนี้ไม่ได้มีการพูดคุยถึงการต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่มีปัญหาอยู่ ส่วนเรื่องหนังสือตอบคำถามจากกระทรวงคมนาคมนั้นทางปลัดกทม.ได้ไปพูดคุยกับกระทรวงคมนาคม เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ในส่วนของตัวเลขหนี้มีการพูดคุยมานานแล้ว ซึ่งยอมรับว่ามีเงื่อนไขทางการเงินที่ต้องวิเคราะห์จำนวนมาก ส่วนจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อใดนั้น ขณะนี้กำลังหารือกับสภากทม. ว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการร่วมกันหรือไม่ เนื่องจากเป็นเรื่องใหญ่ต้องใช้เวลาแต่กำหนดเบื้องต้น 1 เดือนจะต้องมีความคืบหน้ามารายงานให้ประชาชนรับทราบ
ส่วนจะต้องมีการรื้อสัญญาที่ คสช.ได้เจรจาไว้หรือไม่นั้น นายชัชชาติ ยอมรับว่า มีหลายสัญญา ตั้งแต่สัญญาสัมปทานเดิมปี 2572 สัญญาจ้างเดินรถ สัญญาที่จะขยายไปถึงปี 2602 ซึ่งมีหลายอย่างที่ต้องดู ส่วนสัญญาที่ทำไปแล้วก็ต้องดูว่าจะรื้ออย่างไร ขณะเดียวกัน สัญญาในอนาคตที่ยังไม่ได้ทำก็คงไม่มีอะไรเพราะยังไม่ได้ทำสัญญายอมรับว่าจะพยายามเร่งการดำเนินการเนื่องจากมีรายละเอียดค่อนข้างมาก
ส่วนได้มีการเตรียมแผนสำรองหรือไม่หากรัฐบาลไม่รับข้อเสนอของ กทม. นายชัชชาติ ระบุว่า จริงๆแล้วไม่เป็นไร เพราะสุดท้ายก็ต้องสิ้นสุดอยู่ที่คณะรัฐมนตรีอยู่แล้วกทม.เป็นเพียงผู้เสนอความเห็นเข้าไป แต่ก็จะต้องมีการพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่ง ทุกคนช่วยกันแก้ไขปัญหา ไม่มีอะไร คงต้องร่วมหารือกับกระทรวงมหาดไทยก่อนโดยต้องนำประโยชน์ของประชาชนมาเป็นที่ตั้ง
ขณะที่เรื่องรถดับเพลิง ที่มีปัญหาอยู่ นายชัชชาติ กล่าวว่า ต้องค่อยๆสางกันไป เมื่อเอกชนฟ้องร้องอยู่ในกระบวนการศาลก็ทำอะไรไม่ได้ ซึ่งก็ต้องมีการไล่สางหลายเรื่องทั้งท่อร้อยสาย โรงงานกำจัดขยะ ซึ่งมีคณะทำงานอยู่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการเคลียร์ใจกันหรือไม่ ในการใช้ถุงดำคลุมหัวและเชือกมัดมือในสมัยรัฐประหารปี 2557 นายชัชชาติ ระบุว่า ไม่มีการเคลียร์ใจแต่อย่างใดจะมองไปในอนาคต การทำงาน ในอนาคตต้องทำงานร่วมกัน และกทม.อยู่ภายใต้กระทรวงมหาดไทยอยู่แล้ว ทำงานเพื่อประโยชน์ประชาชน หากร่วมมือได้ดีสุดท้ายประโยชน์ก็จะอยู่กับประชาชน และเมื่อสักครู่ก็ได้มีการพูดคุยกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีชาว รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ว่าหากมีการกระตุ้นเศรษฐกิจเราร่วมมือกันได้ระหว่างกทม.กับรัฐบาล ถือเป็นนิมิตรหมายอันดีสุดท้ายแล้วในฐานะที่เราเป็นท้องถิ่นร่วมมือกับรัฐบาลเพื่อเอาประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้งสุดท้ายประโยชน์ก็จะอยู่ที่ประชาชนอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า จะมีลงพื้นที่ร่วมกับนายกรัฐมนตรีแน่นอน พร้อมยังชี้แจงถึงการลงพื้นที่เปิดท่าเรือท่าช้าง-สาทร เมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมาว่า ไม่ทราบจริงๆ ซึ่งก็ได้ฝากบอกไปยังโฆษกรัฐบาล ว่าต่อไปหากมีอะไรก็แจ้งตนเองได้ และก็พร้อมที่จะไปพบนายกรัฐมนตรีและชี้แจงปัญหาในทุกพื้นที่
ในช่วงท้ายผู้สื่อข่าวได้มีการสอบถามนายชัชชาติ ว่าคิดถึงทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ นายชัชชาติ โอ๊ย…. ไม่ใช่บ้านผม แต่ทำเนียบรัฐบาล ก็เปลี่ยนแปลงไปมาก มีความสวยงามมากขึ้น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews