Home
|
ข่าว

ผบ.ทบ.ยันไม่มีรัฐประหารในหัวปัดถกทหารเมียนมา

Featured Image
ผบ.ทบ. ยัน ไม่มีรัฐประหารในหัว ปัดถกทหาร เมียนมา เป็นเรื่องภายใน ขออย่าโยงไทย สั่งคุมเข้มชายแดนสกัดกั้นผู้ลักลอบ

พล.อ.ณรงค์พันธ์  จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึง มาตรการคุมเข้มบริเวณชายแดนฝั่งตะวันตก หลังการยึดอำนาจใน เมียนมา ที่อาจมีการหนีเข้ามาของนักการเมือง หรือ บุคคลสำคัญหลบหนีเข้ามา ว่า ตอนนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ เพราะมีการ คุมเข้มชายแดน อยู่แล้ว ตั้งแต่ มีสถานการณ์โควิด ที่ต้องมีการป้องกันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย และที่รัฐบาลจะมีการผ่อนปรนเกี่ยวกับแรงงานในวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ จึงมีความกังวลว่าจะมีผู้ฉวยโอกาสในช่วงนี้จึงต้องมีการคุ้มเข้มเต็มที่บริเวณชายแดน ที่เห็นได้จากการสกัดกั้นผู้ลักลอบได้ทุกวันจึงทำให้สถานการณ์ในปัจจุบันยังสามารถควบคุมได้เนื่องจากได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนรวมถึงประชาชนด้วย อีกทั้งยังมีการประสานกับเมียนมา อย่างใกล้ชิด

ส่วนการสอบถามเหตุผลและข้อเท็จจริง ในการทำยึดอำนาจในเมียนมา นั้น ผู้บัญชาการทหารบกระบุว่า เป็นเรื่องของการเมือง ทหารคุยกันเรื่องทหาร ขณะจุดยืนการรัฐประหาร เพราะผู้นำทหารไทยกับผู้นำทหารเมียนมามีเพราะความใกล้ชิด ผู้บัญชาการทหารบก ระบุว่า เราอาศัยหลักการจุดยืนขออาเซียน ซึ่งเป็นจุดยืนของรัฐบาลไทย  ทหารเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาล ทุกอย่างเป็นเรื่องภายใน เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะคุยกันแต่ในส่วนความสัมพันธ์ทางทหารยังคงเหมือนเดิม เพราะทหารปฎิบัติการเพื่อความมั่นคง โดยเฉพาะตามแนวชายแดน เรามีความสัมพันธ์ที่ดีมาตลอดในการดูแลความปลอดภัยตามแนวชายแดนของทั้งสองฝั่ง ทั้งการดูแลประชาชน ตามแนวชายแดน สิ่งผิดกฎหมาย และยาเสพติด ที่มีการร่วมมือกันมาโดยตลอด

ส่วนที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ว่ายึดอำนาจในเมียนมา มีส่วนคล้ายและลอกเลียนแบบจากรัฐประหารในไทยนั้น ผู้บัญชาการทหารบกระบุว่า

” คำนั้นไม่มีในหัวผม และก็ไม่มีมานานแล้ว มันหายไปนานแล้ว เพียงแต่พวกเราขุดคำนี้ขึ้นมาเมื่อทางโน้นทำ ซึ่งผมไม่มีอยู่แล้ว และยังย้ำอีกว่าไม่มีความคิด มันเป็นเรื่องภายในของเขา”

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่าการเคลื่อนไหวที่เมียนมาสะเทือนถึงไทยและมีการปลุกระดมความเคลื่อนไหวที่คล้ายเป็นการตีวัวกระทบคราดนั้นผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า นักข่าวสายทหารควรถามเรื่องทหาร เมื่อถามถึงการเมืองถือว่าจบข่าว

พร้อมกันนี้ ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงการครบรอบเหตุการณ์ที่ห้างเทอมินัล 21 จังหวัดนครราชสีมา ว่า  1 ปีที่ผ่านมาเข้าใจว่าเหตุการณ์นี้ต้องกลับมาอยู่แล้ว  ตนไม่ได้กังวล เป็นวันที่ระลึกวันหนึ่ง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่เหตุการณ์ดังกล่าวทางกองทัพบกและรัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนไปทั้งหมด รวมถึงในส่วนผู้กระทำความผิดทั้งผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชาก็ได้เสียชีวิตไปแล้ว

ในส่วนผู้ที่ได้รับผลกระทบกองทัพบกและรัฐบาลได้เยียวยาทั้งเรื่องของเงินตั้งแต่หลักแสนจนถึงจำนวนสูงสุดตามหลักเกณฑ์ประมาณแปดล้านบาท และยังได้ช่วยเหลือในการประกอบอาชีพบรรจุเข้ารับราชการเป็นทหารสังกัดกองทัพบกจำนวน 30 ราย เป็นนายทหาร 1 นาย

ขณะที่ ผู้บาดเจ็บตอนนี้ยังมีเหลืออีกจำนวน 2 ราย โดย 1 ราย อยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา อีก 1 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งวันนี้ได้มอบหมายให้เจ้ากรมกำลังพลทหารบกเป็นผู้แทนเดินทางไปเยี่ยม

ส่วนของความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ต่างๆที่ไม่ตรวจทานให้ดีจนทำให้เกิดปัญหา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า มีจำนวน 13 คน ถูกลงโทษให้ประจำเพราะมีความผิดที่เรียกกันภาษาทหารว่าประจำ 007  และถูกลดเงินบำเหน็จ

อย่างไรก็ตาม ในเรื่องความไม่ระมัดระวังในการรักษาความปลอดภัยในปีนี้ ได้มีการแก้ไขปรับปรุงเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก และยืนยันมีการดูแลคลังอาวุธหนักเป็นพิเศษอยู่แล้ว

นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านออกมาพูดเรื่องชะลอ 3 โครงการ ในการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ในปี 2565 วงเงินรวมกว่า 6,152 ล้านบาท กองทัพจะชี้แจงอย่างไร ว่า ไม่ชี้แจง เพราะเป็นเรื่องของรัฐบาลและสภา ทุกอย่างจะต้องชี้แจงในกรรมาธิการในสภาอยู่แล้ว

ผู้บัญชาการทหารบก ระบุ ถึงความจำเป็นในการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ ว่า ยุทโธปกรณ์ ทุกอย่างมีความจำเป็นในการจัดซื้อซึ่งเมื่อถึงเวลาเสื่อมสภาพก็ต้องซื้อใหม่ แต่ตนเองได้มีการให้แนวทางไปแล้วว่าจะลด ซึ่ง ปีนี้ส่วนใหญ่เป็นงบโครงการซ่อมบำรุงเพื่อให้สามารถใช้ยุทโธปกรณ์ได้อีกระยะหนึ่ง เพราะฉะนั้นทุกอย่างเหมือนของใช้ในบ้าน ที่เหมือนกับกระดาษทิชชู่ เข้าห้องน้ำก็ต้องใช้ทิชชู่ คุณบอกว่าทิชชู่ห้ามซื้อปีนี้ ก็ถามว่าเมื่อคุณเข้าห้องน้ำคุณจะใช้อะไร

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube