กมธ.งบฯ พิจารณาเสร็จแล้ว 5 กระทรวง ติงก.พาณิชย์ แก้ปุ๋ยแพง-ราคาน้ำมันปาล์ม
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ พร้อมด้วยนายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ร่วมแถลงความคืบหน้า ว่า คณะกรรมาธิการฯ ได้พิจารณางบประมาณเสร็จสิ้นแล้ว 5 กระทรวง คือ กระทรวงการคลัง ,กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม , กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ , กระทรวงคมนาคม , และกระทรวงพาณิชย์
เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. คณะกรรมาธิการฯ ได้พิจารณางบประมาณของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ โดยเฉพาะงบประมาณของกรมการค้าภายใน เกี่ยวกับปัญหาราคาสินค้า ปุ๋ยที่มีราคาแพงขึ้นอย่างมาก จนกระทบกับต้นทุนการผลิตสินค้าทางการเกษตรของเกษตรกร และจะมีแนวทางแก้ไขปุ๋ยแพง หรือแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรอย่างไร พร้อมทั้งเสนอให้หน่วยงานประสานกระทรวงการคลังออกเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ หรือให้รัฐบาลช่วยอุดหนุนปุ๋ยกับเกษตรกรครัวเรือนละ 5 กระสอบต่อปี
ด้านผู้แทนกรมการค้าภายใน ชี้แจงว่า ได้จัดทำโครงการจัดหาปุ๋ยเคมีในราคาถูก เพื่อให้เกษตรกรเข้าถึงได้ และได้ประสานไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ดูแล เพื่อรับไปดำเนินการช่วยเหลือให้เกษตรกรซื้อปุ๋ยเคมีในราคาถูกลงเรียบร้อยแล้ว ส่วนปุ๋ยที่จะนำเข้าจากจีน ขณะนี้ยังไม่สามารถนำเข้าได้
รวมถึงภาวะสงครามรัสเซียและยูเครนที่ทำให้เรือขนส่งไม่สามารถเข้าไปรับสินค้าได้ ดังนั้น การแก้ไขปัญหาเรื่องปุ๋ยเคมีจะต้องพิจารณาใน 2 ประเด็น คือ ปริมาณปุ๋ยเคมีต้องมีเพียงพอไม่ขาดแคลน และเกษตรกรได้รับผลกระทบด้านราคาน้อยที่สุด
นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการฯ ยังสอบถามถึงแนวทางแก้ไขเรื่องราคาน้ำมันปาล์มที่ใช้เป็นเชื้อเพลิง และประกอบอาหาร ที่มีราคาเพิ่มสูงขึ้น เพื่อให้เกษตรกรอยู่ได้ และผู้บริโภคไม่เดือดร้อน โดยผู้แทนกรมการค้าภายใน ชี้แจงว่า ที่ผ่านมาประเทศอินโดนีเชียได้จำกัดการส่งออกน้ำมันปาล์ม
และปัจจุบันกลับมาส่งออกได้แล้ว เช่นเดียวกับประเทศมาเลเซีย ซึ่งทางหน่วยงานได้ตั้งคณะอนุกรรมการบริหารจัดการน้ำมันปาล์มขึ้นมา เพื่อพิจารณาให้เห็นถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และติดตามสถานการณ์เป็นระยะ
สำหรับวันนี้ คณะกรรมาธิการฯ ได้พิจารณางบประมาณกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกระทรวงพลังงาน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews