“ยุทธ์พงศ์” ฟาดรัฐบาลไม่มียาดีรักษาประชาชน หลัง “อนุทิน” ได้โมลนูพิราเวียร์ ทั้งที่ไม่เข้าค่ายกลุ่ม 608 มองเป็นความล้มเหลว เตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจ ระบุ “ประยุทธ์” เจอของจริงอย่าร้องจ๊าก
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบันมีความหนักหนาสาหัสมาก ไม่ได้เบาลง โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีรองนายกรัฐมนตรีและเป็นหัวหน้าพรรคทั้งสองพรรคการเมือง คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ซึ่งขณะนี้ผู้ป่วยไม่ได้แจ้งเพราะตรวจ ATK ก็เข้ารับการรักษาเองที่บ้าน ปัญหาในขณะนี้ที่คนเป็นโควิดสายพันธุ์โอไมครอนที่กลายพันธุ์มาเยอะมาก แต่ไม่มียาดีรักษา ซึ่งพอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ป่วยให้ยาโมลนูพิราเวียร์ ซึ่งประเทศไทยไม่มีขาย เป็นยารักษาโควิดที่ดีที่สุดในโลกในขณะนี้
โดยนายอนุทิน ไม่เข้าหลักกลุ่ม 608 เพราะอายุยังไม่ถึง 60 ปี รวมถึงไม่ได้ป่วยเป็น 8 โรคเสี่ยง ยังแข็งแรงดี แต่ขณะนี้ประเทศไทยวิกฤตเพราะยังไม่มียาโมลนูพิราเวียร์ ทำไมจึงไม่สั่งเข้ามาเพื่อรักษาประชาชน ตอนนี้แม้แต่ฟาวิพิราเวียร์ที่ต่างจังหวัดยังหายากในต่างจังหวัด ประชาชนต้องใช้ยาแก้ปวดใช้ยาพารารักษาตามอาการ นี่คือความล้มเหลวของผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ผอ.ศบค. และตรงนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เตรียมตัวในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในเที่ยวนี้เรื่องโควิดล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ยาที่ดีมีให้เฉพาะนักการเมืองใหญ่หรือ ประชาชนคนทั่วไปไม่มียาโมลนูพิราเวียร์ให้ และคนที่มีเงินจะซื้อก็ไม่มีขาย นี่คือความล้มเหลวของผอ.ศบค. และนี่คือการฉายหนังตัวอย่างของการอภิปรายไม่ไว้วางใจและหากเจอของจริงในสภา อย่าร้องจ๊ากว่าทำไมจึงหนักนัก ในเที่ยวนี่พรรคเพื่อไทยมีข้อมูลพร้อมถึงความล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน การทุจริตและยังปล่อยให้รัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรีทุจริตคอรัปชั่นเต็มไปหมด
นอกจากนี้นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยังได้กล่าวว่า ตนเป็นกรรมาธิการงบประมาณ ซึ่งมีคำหนึ่งที่ตอนนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจต่างๆจะใช้คำว่า BCG หรือ Bio-Circular-Green Economy หรือ เศรษฐกิจหมุนเวียนด้วยระบบการผลิตที่หญิงความเป็นชีวพันธุ์จนเขียวชอุ่ม ซึ่งเป็นคำใหญ่คำโตที่ผู้นำรัฐบาล และผู้นำเศรษฐกิจหยิบขึ้นมาพูดถึงความรู้สึกแตกฉานว่าจะต้องทำอะไร เพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศหมุนเวียนได้อย่างดีและยั่งยืน ไม่มีความสูญเปล่าด้วยความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
แต่ปีนี้พิจารณาเรียบร้อยแล้วโดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมตั้งงบเรื่อง BCG ไว้ทั้งหมดโดยการยกระดับ SME ให้ได้มาตรฐานตามหลัก BCG จำนวน 3.6 ล้านบาท ซึ่งจะทำได้หรือ ในเมื่อโครงการ SME ของเรารวมกันเป็นหลักพันล้านหมื่นล้านบาท แต่รัฐใช้เงินเพียง 3.6 ล้านบาทที่จะผลักดันโครงการ BCG ซึ่งสวนทางกับคำพูดของนายกรัฐมนตรี ที่บอกว่าจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจด้วยหลักการ BCG ซึ่งเป็นคำใหม่ที่นายกรัฐมนตรีพูด ซึ่งเป็นคำพูดที่สวยหรู
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews