ครม.รับทราบรายงานสรุปผลพิจารณาข้อเสนอแนะในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน กรณีร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการดำเนินงานขององค์กรที่ไม่แสวงหารายได้
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้เสนอรายงานสรุปผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน
กรณีร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการดำเนินงานขององค์กรที่ไม่แสวงหารายได้หรือกำไรมาแบ่งปันกัน พ.ศ. …. และข้อเสนอแนะในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือคำสั่งใดๆ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
โดยสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วมีผลสรุปในภาพรวมว่า สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแล้ว
โดยที่ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการรับฟังความคิดเห็นและวิเคราะห์ผลกระทบของร่างกฎหมาย โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 77 และพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 ก่อนเสนอครม.ต่อไป
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่สำคัญเช่น การดำเนินมาตรการของรัฐต่อองค์กรที่ไม่แสวงหารายได้หรือกำไรมาแบ่งปันกัน ควรเน้นที่การส่งเสริมสนับสนุน และการพัฒนามากกว่าการควบคุมกำกับ
นอกจากนี้ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการดำเนินงานขององค์กรที่ไม่แสวงหารายได้มีเจตนารมณ์ในการควบคุมกำกับการดำเนินงานขององค์กรที่ไม่แสวงหารายได้ หรือกำไรมาแบ่งปันกัน อาจก่อให้เกิดปัญหาและอุปสรรคในการรวมตัวกันเพื่อดำเนินกิจกรรมสาธารณประโยชน์และกระทบต่อการร่วมมือกับรัฐในการพัฒนาประเทศ
รวมทั้งการกำหนดหลักเกณฑ์ให้ต้องปฏิบัติซ้ำซ้อนกับที่ได้ดำเนินการอยู่แล้วตามกฎหมายอื่นอาจเป็นการมีกฎหมายเกินความจำเป็นและเป็นการสร้างภาระกับประชาชน
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล ยังกล่าวว่า คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการและกำหนดหน้าที่ของส่วนราชการกองทัพอากาศ กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. เพื่อปรับปรุงโครงสร้างและภารกิจของส่วนราชการกองทัพอากาศ
โดยในส่วนของกรมควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ เปลี่ยนชื่อเป็น กองบัญชาการควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ และได้แก้ไขเพิ่มเติมหน้าที่เพื่อให้ครอบคลุมการปฏิบัติการทั้ง 3 มิติ ได้แก่ ทางอากาศ ทางอวกาศ และ ทางไซเบอร์ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ด้านความมั่นคงและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป
ทั้งนี้ ในการปรับปรุงโครงสร้างและภารกิจของกรมควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ เปลี่ยนชื่อมาเป็น กองบัญชาการควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ นอกจากจะเพิ่มขีดความสามารถและประสิทธิภาพการบัญชาการและควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ ทางอวกาศ และทางไซเบอร์
เพื่อรองรับภารกิจการปฏิบัติการทางทหารทั้งการรบและไม่ใช่การรบแล้ว ยังสามารถสนับสนุนภารกิจอื่นของรัฐในการพัฒนาประเทศ การป้องกันและแก้ไขปัญหาจากภัยพิบัติและการช่วยเหลือประชาชน และยังสามารถรอง รับการปฏิบัติการของอากาศยานรบ ยุคที่ 5 ที่วางแผนจะจัดหาในอนาคต
และเป็นการสร้างสมดุลของระบบเตรียมกำลังและระบบการใช้กำลังกองทัพอากาศ ส่งผลดีต่อการสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของเหล่าทัพและกองทัพไทย
สำหรับการปรับปรุงโครงสร้างและการจัดอัตรากำลังพลนั้น ให้กระทรวงกลาโหมยึดถือหลักการ ปรับเกลี่ยและจัดกลุ่มงานใหม่ ของหน่วยงานที่มีความจำเป็นลดน้อยลงแล้วเพิ่มให้กับหน่วยงานที่ต้องการเพิ่มขีดความสามารถ โดยปรับเกลี่ยอัตรากำลังพลภายในตรงตามชั้นยศ ไม่ทำให้อัตรากำลังพล ยอดอัตรากำลังพลแต่ละชั้นยศ และงบประมาณรายจ่ายกำลังพลภาครัฐทุกประเภทเพิ่มขึ้น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews