Home
|
ข่าว

“ชลน่าน” ประณามคนสั่งการ ให้กลับไปใช้หาร 500

Featured Image
“ชลน่าน” ประณามคนสั่งการ ให้กลับไปใช้หาร 500 เพราะยกเลิกกฎหมายของตัวเอง เพื่อให้อยู่รอด “สุทิน” ฉะสิ่งนี้พิสูจน์แล้ว คนที่ทำความชั่วให้กับระบอบประชาธิปไตย ยังไม่หยุด

 

 

 

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงรัฐสภามีมติเสียงข้างมากเห็นชอบการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อแบบหาร 500 ว่า ระบบนี้สร้างให้เกิดภาพจริงทางการเมืองในปัจจุบัน คือมี ส.ส. พรรคเล็กพรรคน้อย ส.ส. ปัดเศษ และรัฐบาลผสม 20 กว่าพรรค ทำให้การทำงานของรัฐสภาไม่เป็นไปตามกฎหมายรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้อง จนได้รับฉายาว่าเป็นสภาฯ ที่ขับเคลื่อนด้วยการแจกกล้วย

 

ทั้งนี้ กระบวนการเสนอร่าง พ.ร.ป. ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ จนรัฐสภาให้ความเห็นชอบในวาระที่ 1 แต่จนกระทั่งการพิจารณาในวาระที่ 2 มีกระแสที่สื่อมวลชนนำเสนอว่ามีสั่งการให้หาร 500 จากทำเนียบรัฐบาล และพิสูจน์จากการลงมติเมื่อคืนว่า เป็นไปอย่างนั้นจริง การเปลี่ยนระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ จะถูกแก้ด้วยกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญให้เป็นระบบจัดสรรปันส่วนผสม

 

แน่นอนว่าทุกคนเห็นว่าขัดรัฐธรรมนูญ แต่ผู้มีอำนาจเขาต้องการแบบนี้ เพราะเกิดจากการแลกเปลี่ยนในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นหลักประกันว่า 30 เสียงจากพรรคการเมืองกลุ่มหนึ่งจะช่วยโหวตให้ ถ้ารายงานข่าวนี้เป็นจริง เป็นความอัปยศที่สุดในรัฐสภาไทย ผมขอประณาม ไม่เคยเกิดขึ้นแบบนี้มาก่อน เพราะคนสั่งการสั่งยกเลิกกฎหมายตนเอง

 

พร้อมกล่าวถึงนายกรัฐมนตรี ถ้าทำเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด ปรากฏการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นหลายครั้ง ในลักษณะที่นายกฯ เหมือนถูกบีบคออยู่ตลอด ที่ต้องยอมพรรคการเมืองต่อรองกฎหมายและผลประโยชน์ พฤติกรรมเหล่านี้ส่อว่าผู้สั่งการและสมาชิกสภาฯ ที่ปฏิบัติ จงใจฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญและมาตรฐานจริยธรรม

 

เราจะดำเนินการตามตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป ใช้กลไกผ่าน ป.ป.ช. ตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย แม้ว่ามีโอกาสที่ศาลและองค์กรอิสระที่รับร่างกฎหมายไปจะตีกลับมาให้พิจารณาใหม่ก็ตาม

 

ขณะที่นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าสิ่งนี้พิสูจน์แล้วว่า คนที่ทำความชั่วให้กับระบอบประชาธิปไตย ก็ไม่หยุดยั้ง และไม่กล้าเชื่อว่าจะกล้าทำขนาดนี้ เราคิดว่าคงกล้าทำความชั่วร้ายกว่านี้อีกต่อไป

 

เราเชื่อว่ามีการวางแผนซ่อนกลที่จะทำความชั่วเยอะกว่านี้อีก เราเชื่อและเฝ้ามองว่ารัฐบาลจะวางกลเกมให้ไปเจอทางตันมากกว่านี้อีก ซึ่งท้ายที่สุดรัฐบาลจะกำหนดระบบเลือกตั้งได้เบ็ดเสร็จกว่าเมื่อคืนอีก

 

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ยังยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยไม่รู้สึกหวาดกลัว หลังรัฐสภาใช้สูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อหาร500 ว่า เพราะมีหลายวิธีการ ซึ่งเพื่อไทยอาจจะตัดสินใจตั้งพรรคครอบครัวเพื่อไทยขึ้นใหม่ หรือที่หลายฝ่ายเรียกว่าแตกแบงค์พัน ให้พรรคครอบครัวเพื่อไทยส่งบัญชีรายชื่ออย่างเดียว แล้วพรรคเพื่อไทยส่งเขตอย่างเดียว

 

หากพรรคครอบครัวเพื่อไทยได้จำนวนเสียงเกิน 15 ล้านเสียงก็จะทำให้ได้ ส.ส.พึงมีได้ถึง 214 เสียง แต่ต้องมาคำนวณหาสัดส่วน ส.ส.พึงมี ให้ได้เท่ากับ 100 คนของ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เช่นเดียวกับปี 2562 ซึ่งจะทำให้พรรคครอบครัวเพื่อไทย ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนทั้งหมด

 

ส่วนการตั้งครอบครัวเพื่อไทยขึ้นมาใหม่ จะเป็นไปได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การเมือง และการตอบรับของประชาชน และโพลที่ พรรคเพื่อไทยมีคะแนนนินมมาเป็นอันดับ 1 ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่จะนำมาประกอบการพิจารณา แต่ต้องประเมินเชิงลึกเป็นรายพื้นที่ระดับเขต ถ้าอยากได้ 15 ล้านเสียง ต้องได้ไม่ต่ำกว่า 35,000 เสียงต่อเขต

 

ซึ่งหากทำได้ก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ แต่ในทางกลับกันถ้าเป็นพรรคครอบครัวเพื่อไทย ที่ส่งแต่บัญชีรายชื่อ ก็ไม่จำเป็นต้องได้ถึง 15 ล้านเสียง

 

ทั้งนี้ แนวคิดดังกล่าว ยังไม่มีการคุยเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ แต่หลังรัฐสภามีมติใช้สูตรหาร 500 ส.ส. ของพรรคมีความเห็นด้วย ซึ่งมั่นใจว่า หากใช้วิธีการดังกล่าว มั่นใจว่า พรรคเพื่อไทย และพรรคครอบครัวเพื่อไทย จะได้ ส.ส. เกินกึ่งหนึ่ง

 

อย่างไรก็ตาม การใช้สูตรคำนวณหาร 500 พรรคที่ได้ประโยชน์คือ พรรคก้าวไกล โดยเทียบจากวิธีการคำนวณจากเลือกตั้งปี 2562 ซึ่งอาจจะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเกินกึ่งหนึ่ง ส่วนพรรคเล็ก อาจจะไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง เพราะจำนวน ส.ส. บัญชีรายชื่อ ลดจาก 150 เหลือ 100 คนเท่านั้น

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube