“ศักดิ์สยาม” ปัดซุกหุ้น ฮั้วประมูล
“ศักดิ์สยาม” ปัดซุกหุ้น ฮั้วประมูล แจงขาย หจก.119 ล. โต้เทงบลงบุรีรัมย์ ยันพิจารณาตามขั้นตอน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ชี้แจงประเด็นที่มีการถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจใน 4 ประเด็น โดยในประเด็นที่ดินเขากระโดงนั้น เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนานมีข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานของรัฐและประชาชนในบริเวณนั้น ตั้งแต่ปี 2502 และอยู่ระหว่างการพิสูจน์สิทธิ์ของกรมที่ดินและการรถไฟแห่งประเทศไทย
โดยต้องมีการตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริง พร้อมยืนยัน ว่า ไม่เคยแทรกแซงการทำงานของหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงคมนาคม และสั่งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายมาโดยตลอด สิ่งที่ได้มอบให้การรถไฟ คือ การดำเนินการทุกอย่างต้องทำภายใต้กฎระเบียบกฎหมายได้หลักธรรมาภิบาล
พร้อมกันนี้ ไม่ขอตอบคำถามซ้ำเนื่องจากเคยชี้แจงไปก่อนหน้านี้ โดยยืนยันด้วยความบริสุทธิ์ใจ ตนเป็นเพียงผู้อาศัยอยู่ในพื้นที่ เพราะทุกอย่างต้องอยู่ในกระบวนการพิสูจน์สิทธิ์ และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเคร่งครัด
ส่วนประเด็นการขายหุ้นห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญ น่าสงสัยว่าเป็นการซื้อขายปลอมไม่มีหลักฐานว่ามีการซื้อขายจริงแต่เป็นในลักษณะนิติกรรมอำพราง เพื่อให้รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ประโยชน์ในการลงทุนของ หจก.บุรีเจริญ ในโครงการรับเหมาของกระทรวงคมนาคม นายศักดิ์สยาม ระบุว่า
เรื่องนี้มีการซื้อขายกันจริงกับนายศุภวัฒน์ ซึ่งเป็นเพื่อนของตน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2561 โดยได้มีการโอนเงินเสร็จเรียบร้อยมีหลักฐานยืนยันจากธนาคารธนชาต สาขาบุรีรัมย์ มีการโอนเงิน 3 ครั้ง ครั้งแรกวันที่ 2 เดือนสิงหาคม 2560 จำนวน 35 ล้านบาท จากธนาคารธนชาต สาขาบางบัวทอง ครั้งที่ 2 วันที่ 5 เดือนกันยายน ปี 2560 จำนวนเงิน 35 ล้านบาท จากธนาคารธนชาตสาขาบางบัวทอง
และครั้งสุดท้ายโอน เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2561 จำนวนเงิน 49,500,000 บาท จากธนาคารธนชาต สาขาบางบัวทอง โดยมีนายศุภวัฒน์ เป็นผู้โอน รวมจำนวนเงิน 119 ล้านบาท ซึ่งเรื่องนี้เป็นประเด็นที่มีการดำเนินการซื้อขายจริง และมีการจด เปลี่ยนหนังสือรับรองของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าของกระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 28 มีนาคมปี 2561 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญอีกเลย
พร้อมยืนยันว่า เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ส่วนเหตุใดจึงไม่มีการรายงานเป็นบัญชีทรัพย์สินต่อไปนั้น นายศักดิ์สยาม ชี้แจงว่ากิจกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นระหว่างที่ตนยังไม่เข้าสู่ตำแหน่ง ตนเข้าสู่ตำแหน่งการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมปี 2562 และตามกฎหมายจะต้องมีการแจ้งบัญชีทรัพย์สินที่มีในขณะนั้น ภายใน 30 วัน โดยมีการแจ้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมีการที่แจ้งในเอกสารดังปรากฏและประกาศเป็นการเปิดเผยจากทาง ป.ป.ช. สิ่งที่เกิดขึ้นก่อน ไม่ได้อยู่ในข้อบังคับที่จะต้องมาชี้แจง
ส่วนการตั้งประเด็นว่างานของกระทรวงคมนาคมโครงการต่างๆ มีการประมูลงานที่เป็นลักษณะของการฮั้วประมูล นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ไม่มีโอกาสที่จะเป็นเช่นนั้น และยืนยันว่าไม่เป็นความจริงและเป็นไปไม่ได้ โดยหากมีการฮั้วประมูลจริงจะมีโทษ โดยผู้เสนอราคาจะมีความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ 2542 ซึ่งเรื่องการดำเนินการของหน่วยงานของกระทรวงคมนาคมทั้งหมด ได้ยึดระเบียบกฎหมายพัสดุมาโดยตลอด
ส่วนข้อกล่าวหาที่มีการจัดงบประมาณของกรมทางหลวงชนบทและกรมทางหลวง ไปยังจังหวัดบุรีรัมย์มากผิดปกตินั้น นายศักดิ์สยาม ชี้แจงว่า ในสิ่งที่ดำเนินการในการจัดทำงบประมาณ พิจารณาในเรื่องขอตั้งงบประมาณที่มีการดำเนินการของกระทรวงคมนาคมในเรื่องกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท ย้อนหลัง 10 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2557 ถึงปี 2566
โดยปี 2566 ไม่ยังไม่มีการจัดสรรงบประมาณ อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะพบว่าการของบประมาณของกระทรวงคมนาคมเราขอไปมาก แต่จะได้รับการจัดสรรเพียงไม่เกิน 1 ใน 3 ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีทั้งเรื่องของการจัดตั้งงบประมาณที่เป็นโครงการขนาดใหญ่
ซึ่งเป็นงบผูกพัน การจัดตั้งงบประมาณขนาดเล็กหรืองานปีเดียวส่วนที่บอกว่างบประมาณเป็นกระจุกตัวที่จังหวัดบุรีรัมย์นั้น นายศักดิ์สยาม ชี้แจงว่า 10 ปีที่ผ่านมาจังหวัดบุรีรัมย์ มีงบของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท ดำเนินการในพื้นที่หากเปรียบเทียบย้อนหลัง จะเห็นได้ว่าจังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อเปรียบเทียบกับจังหวัดใหญ่ๆอย่างนครราชสีมา นครปฐม
จะเห็นได้ว่าจังหวัดอื่นๆได้รับงบประมาณจัดสรรมากกว่าจังหวัดบุรีรัมย์ โดยหากเปรียบเทียบให้เห็นชัดเจนว่า งบประมาณที่สูงขึ้นในห้วงท้ายๆ ในอดีตที่ผ่านมาจังหวัดบุรีรัมย์และจังหวัดใกล้เคียงในภาคอีสาน ได้มีการจัดสรรงบประมาณที่น้อย ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในการพัฒนา ซึ่งจังหวัดบุรีรัมย์มีการพัฒนาโดยภาคเอกชน ก่อให้เกิดการสร้างงานการท่องเที่ยวและการเดินทางมากมาย
ซึ่งจะมีการดำเนินการต้องสร้างทางคมนาคมเพื่อรองรับในสิ่งเหล่านี้ ซึ่งเกิดขึ้นก่อนที่ตนจะมาด้วยซ้ำ ส่วนเมื่อนำงบประมาณจัดสรรมาที่จังหวัดบุรีรัมย์มีการกระจุกตัว ตนขอยืนยันว่าไม่จริง เพราะหากดูจากผังโครงการตั้งแต่ปี 2564- 2566 หากได้รับการอนุมัติจากสภาฯ มาเพราะจุดลงพื้นที่ในเขตจังหวัดบุรีรัมย์ จะมีการกระจายตัวทั้งจังหวัด ไม่ได้มีการกระจุกตัวอย่างที่มีการนำข้อมูลมาอภิปรายในสภา ซึ่งจะเห็นได้ว่ากระทรวงคมนาคมได้พิจารณาการจัดสรรงบประมาณต่างๆโดยคำนึงถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และความเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาต่างๆ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews