Home
|
ข่าว

“ประยุทธ์” แขวะ”เสรีพิศุทธ์”พูดถึงนายกฯทหาร เพราะน้อยใจที่ไม่มีนายกฯ

Featured Image
“ประยุทธ์ แขวะ “” พูดถึงนายกฯ ทหาร เพราะน้อยใจที่ไม่มีนายกฯ ที่มาจากผบ.ตร.มาก่อน ปลอบใจเดี๋ยวก็ได้เป็น บอกอย่าลืมว่าตัวเองเคยซื้อรถตำรวจ Tiger ใช้แล้วทิ้ง มีคดีอยู่ ป.ป.ช.-ศาลเยอะ

 

 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลุกขึ้นชี้แจง หลังจากรับฟังสมาชิกอภิปรายไม่ไว้วางใจใน หลายชั่วโมง และพยายามเก็บทุกประเด็นที่ได้มีการอภิปราย เพื่อที่จะตอบคำถาม

 

แต่มีเวลายังจำกัด ถึงจะพูดเข้าที่สามารถพูดได้ ในเวลาที่มีอยู่ และจะมีการสร้างความรับรู้ ในช่องทางอื่นๆ โดยตนเองพร้อมรับฟังการอภิปรายของสมาชิกในทุกเรื่อง ทำเรื่องส่วนตัวและเรื่องคุณสมบัติการเป็นนายกรัฐมนตรี

 

โดยนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงในประเด็นที่สมาชิกมีการอภิปรายถึงภาวะการเป็นผู้นำที่ได้พูดว่าสมองมี 8.4 แสนเซลล์ ว่า ตนเองพูดเร็วไปนิดนึง ทั้งที่จริงๆ แล้วจะพูดว่า 8.4 แสนล้านเซลล์ และภาพที่นำมาออกหลายครั้งเป็นภาพในอดีต

 

ซึ่งก็จะเลือกเอาเฉพาะที่ตอบ แต่ไม่ดูคำถาม ซึ่งก็เห็นได้ว่าตนเองอารมณ์ดีในการมาเข้าร่วมการประชุมสภา ถึงแม้จะมีการอภิปรายยั่วยุ ตามที่วางแผนเอาไว้ตนเองก็ยังอดทนได้อยู่จนถึงเวลานี้

 

ทั้งนี้ในส่วนของประเด็นเครื่องบินขับไล่ F-16 และF-5 ที่จะปลดประจำการในปี 2575 ตามอายุการใช้งาน ถึงต้องมีการวางแผนการจัดซื้อมาทดแทนเป็น 3 ระยะ จำนวน 12 เครื่อง ระยะละ 4 เครื่อง

 

โดยใช้ระยะเวลาในการจัดหาถึง 10 ปี จนครบตามความต้องการทางยุทธการ และหากทำได้ก็จะสอดคล้องกับเครื่องบินที่ปลดประจำการ สิ่งสำคัญต้องมองถึงศักยภาพอื่นๆ ด้วย และสงคราม รบหรือไม่รบ ก็ต้องมีศักยภาพตรงนี้ไว้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับพวกท่านในการพิจารณากรอบงบประมาณ

 

ส่วนข้อสงสัยที่ซื้อเครื่องบินขับไล่ F-35 แต่ไม่มีระบบอาวุธ นั้น นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า จริงๆ แล้วเป็นเครื่องบิน ที่อยู่ในตระกูลเดียวกัน สามารถใช้อาวุธที่อยู่ในเครื่องเดิมได้ รวมทั้งสามารถติดตั้งได้ภายหลังถือเป็นการประหยัด มีอะไรก็ใช้อย่างนั้น ได้ของใหม่ก็ต้องใช้ของเดิมประกอบไปบ้าง และยืนยันว่าหากเราสามารถเพิ่มขีดความสามารถตรงนี้ไปได้ก็จะทำ เกิดความเชื่อมั่น ไว้วางใจ

 

ถึงแม้เราจะเป็นมิตรประเทศกัน แต่ต้องยอมรับว่า วันนี้มีการแข่งขันกันสูงอยู่ แม้จะมีการช่วยเหลือจากประเทศต่างๆ แต่ไม่ขอพูดถึง ทั้งทางบก ทางเรือ ทางใต้น้ำ ซึ่งทุกคนน่าจะทราบดีอยู่แล้ว ขณะที่เรื่องค่าใช้จ่าย

 

ทั้งเที่ยวบินและการซ่อมบำรุง ที่บอกว่าแพง นั้น ได้มีการจัดหาเครื่องบินจำลองในหลานภารกิจ ที่จะทำให้ลดค่าใช้จ่ายงบประมาณในส่วนนี้ได้ เพราะเครื่องที่ทันสมัยขนาดนี้คงไม่ได้บินเป็นชั่วโมง แค่บินยิงกับแป๊บเดียวก็ตกลงแล้ว เราคงไม่นำเครื่องบินขับไล่ไอพ่นบินนานเป็นชั่วโมง เว้นแต่ไปแสดงศักยภาพ เพื่อให้เขาถอยกลับไป เหมือนกับที่มีปัญหากระสุนตกในฝั่งไทย

 

หากเราไม่ได้รับการบาดเจ็บหรือสูญเสีย ก็ใช้กระสุนควันยิงเตือนให้หยุดแต่ไม่ใช้กระสุนระเบิด นั่นคือการอยู่รวมกัน และเป็นเรื่องภายในของประเทศเขาในการต่อสู้กับชนกลุ่มน้อย ที่มีปัญหากันอยู่ อีกทั้งชนกลุ่มน้อยก็อยู่บริเวณชายแดนของประเทศไทย

 

โดยเราสามารถดูแลได้ตามสิทธิมนุษยชน หากมีการบาดเจ็บและต้องได้รับการรักษา พร้อมจัดพื้นที่ปลอดภัยให้เมื่อสถานการณ์สงบก็กลับบ้านเมืองของตนเอง เพราะเราก็ไม่ได้อยากให้เขาอยู่ประเทศไทยนานเกินไป

 

ซึ่งเรามีหลายศูนย์อบอพยพ เหลือผู้อพยพประมาณ 100,000 คน ที่ยังกลับไปไหนไม่ได้เราก็ต้องดูแล พร้อมทราบดีอยู่แล้วบริเวณชายแดนมีการสู้รบ 2 ฝ่าย และมีประชาชนอาศัยอยู่ ซึ่งหันหลังชนกับประเทศไทย แต่เราก็ต้องระมัดระวังอย่างที่สุด

 

เพื่อให้เราปลอดภัย ที่ขณะนี้มีการเข้ามาจัดการปัญหา จากหลายภาคส่วนด้วยกัน รวมถึงอาเซียน โดยมีไทยเป็นหลักในการเข้าไปเจรจา พูดคุย เพื่อลดระดับความตึงเครียดลง นอกจากนี้ ยังมีกลุ่ม EU และตะวันออก ให้ยกเลิกการค้าขาย

 

ซึ่งยอมรับว่า ทำให้เกิดปัญหามากเพราะมีดินแดนติดต่อกัน มีมูลค่าค้าขายระหว่างกันหลายแสนล้านบาท และเป็นแหล่งพลังงานของไทยด้วย ส่วนปัญหาจีน-รัสเซีย เป็นเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินของเขา จะเข้าข้างใครไม่ได้ ต้องพยายามหาทางแก้ปัญหาในทางสงบ และเป็นสากล จะดีกว่า ต้องมีการพูดคุยเจรจาหารือกัน ผีผามไม่ได้ หากพลาดไปจะเดือดร้อนเรา เพราะคนอื่น ที่เข้ามาเกี่ยวข้องไกลจากประเทศเราทั้งสิ้น ไกลจากไทยและพม่า

 

ดังนั้น คนที่เผชิญศึกหนักคือเรา ทั้งรับคน การต่อสู้ด้วยอาวุธสงครามต่างๆ เข้ามาแน่นอน เพราะอยู่ใกล้กัน กลับไปดูย้อนหลังบางจุดห่างกันไม่ถึง 100 เมตรด้วยซ้ำ เพราะหันหลังชนกัน แต่เราต้องไม่สลับสนุนให้ชนกลุ่มน้อยไปต่อสู้กับรัฐบาลของเขา ยืนยันว่า ตนเองไม่เคยสั่งการอย่างนั้น จึงขอให้ระมัดระวังหน่อยในเรื่องนี้

นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงถึงการจัดหาอากาศยานไร้คนขับของกองทัพเรือ ว่า ได้จัดหาตามความจำเป็นและมีการคัดเลือกอากาศยานไร้คนขับ ประจำฐานบินชายฝั่งอย่างน้อย 3 เครื่อง

 

โดยประจำการตามกองทัพเรือภาคต่างๆ ด้วยวงเงิน 4,070 ล้านบาท ใช้เวลาจัด 4 ปี (2565-2568) โดยโครงการนี้ได้รับการเข้าร่วมโครงการข้อตกลงคุณธรรมประจำปี 2565 และภาคส่วนต่างๆ เข้ามาร่วมสังเกตการณ์ตลอดโครงการด้วย ส่วนเรื่องเรือดำน้ำที่เคยมีการอภิปรายในหลายครั้งว่าซื้อโดยไม่มีเครื่องยนต์ตนเองจะซื้อมาทำไม เพราะTOR ได้กำหนดไว้ว่าจะต้องมีเครื่องยนต์ด้วย

 

โดยผูกสัญญาว่าจะต้องใช้เครื่องยนต์ของเยอรมัน ซึ่งในตอนนั้นยังไม่เกิดปัญหากัน ในเมื่อทำไม่ได้ตามสัญญาตนเองจะรับ มาได้อย่างไร เพราะเขาจะต้องไปแก้ไขปัญหาตรงนั้น และได้มีการหารือร่วมกันไปแล้ว ขณะที่โรงซ่อมเรือ -โรงจอดเรือดำน้ำ ก็ต้องดำเนินการก่อสร้างเดินหน้าต่อ เรือมาเมื่อไหร่ก็ต้องมีที่จอด ไม่ใช่เหตุผลที่จะต้องหยุดทำ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวถึงเรื่องการต่างประเทศ ที่มีหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจ จะมีการชี้แจงอีกครั้ง เพราะท่านพูดเยอะเหลือเกิน แต่จะตอบในภาพกว้าง ไม่สามารถตอบเป็นประเด็นได้ สิ่งที่ตนเองทำมาท่านก็บอกว่าผิดทั้งหมด

 

ซึ่งจะถูกหรือผิดก็ให้สภาได้พิจารณาดู ว่าควรทำอย่างไร เมื่อถึงเวลาและโอกาสที่ท่านได้เข้ามาก็ทำให้ดีก็แล้วกัน ทำเป็นอดีต ผบ.ตร. ก็พูดแต่ความดีของตนเอง ก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก หากท่านไม่กล่าวถึงนายกรัฐมนตรีที่เป็นทหารทั้งหมด

 

จึงอาจน้อยใจที่นายกรัฐมนตรีไม่ได้เป็น ผบ.ตร.มาก่อน เดี๋ยวก็ได้เป็น เพราะเป็นหัวหน้าพรรคอยู่แล้ว และหลายเรื่องท่านก็มีปัญหาในเรื่องของกฎหมายอยู่เหมือนกัน ที่ยังค้างอยู่ที่คณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และศาล ก็มีหลายเรื่องเช่นกัน เมื่อมีการว่าตนเองทุจริตก็ขอย้อนด้วยเช่นกัน ว่าซื้อยุทโธปกรณ์มาก็ใช้ไม่ได้ แต่ตนเองไม่เคยซื้อมาใช้แล้วทิ้งอย่างมอเตอร์ไซค์ Tiger ของตำรวจ อย่าลืม

 

อย่างไรก็ตาม บางช่วงบางตอนที่นายกรัฐมนตรี ชี้แจงมีสมาชิกคุยกันเสียงดัง จึงทำให้มีอารมณ์หงุดหงิด พร้อมระบุว่าหากจะคุยกันก็ขอให้ไปคุยข้างนอกให้รักษามารยาทด้วย โดยตนเองไม่เคยทำพฤติกรรมแบบนี้

 

จึงทำให้นายศุภชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมได้ย้ำกับสมาชิกโดยขอให้ให้เกียรติ เพราะตอนที่มีการอภิปรายของสมาชิกนายกรัฐมนตรีก็นั่งฟัง ดังนั้น เมื่อนายกรัฐมนตรีชี้แจงก็ขอให้ฟังด้วยเช่นกันไม่ใช่คุยกันแข่ง

“ที่ได้มีการพูดทั้งหมด เป็นก้าวแรกๆ ในการเดินทางไกลของตนเอง และเชื่อคำกล่าวที่ว่า “ระยะทางพิสูจน์แรงม้า กาลเวลาพิสูจน์คน ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน”

 

สิ่งที่เริ่มดำเนินการไป มีเพียงอย่างเดียว คือ ภูมิใจว่าตนเองทำสำเร็จ ท่านจะว่าผมทำไม่สำเร็จก็แล้วแต่ แต่ผมรู้ว่าผมทำอะไรอยู่การทำอะไรต้องรู้ตัวเสมอ เพื่อฝากให้กับทุกท่านเก่งๆ ให้มีโอกาสได้สานต่อก็แล้วกัน เชื่อมั่นว่า ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าได้

 

โดยประเทศไทยต้องยืนหยัดอยู่อย่างนี้ ผมจะอยู่หรือไม่อยู่ ประเทศไทยก็ต้องอยู่ เป็นดินแดนแห่งความเจริญสงบ สันติบนแผนที่โลกตลอดไป จึงขอฝากเพียงเรื่องเดียว ความร่วมมือร่วมใจในการทำงาน อะไรดีสอนกัน บอกกัน จะได้สำเร็จ และเป็นความภาคภูมิใจของพวกเราทุกคน เราจะได้ยืดอกออกมากันทุกคน และกล่าวคำว่าเราภูมิใจที่เป็นคนไทยจึงขอฝากไว้แค่นี้”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube