“สุทิน” สรุปซักฟอก 10 รมต.นั่งร้าน หลังใช้เวลาอภิปราย 4 วัน ชี้คำตอบที่แจง ยังไม่เคลียร์ ไม่สามารถไว้วางใจได้
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ทำหน้าที่อภิปรายสรุปญัติการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล หลังจากที่ฝ่ายค้านใช้เวลาอภิปรายมาแล้ว 4 วัน โดยระบุว่า ล่าสุดผลโหวตมติไม่ไว้วางใจจากเครือข่ายภาคประชาชน ออกมาแล้วว่าประชาชนไม่ไว้วางใจ 89% และไว้วางใจ 11% ยังไม่นับรวมผลโพลล์ว่า อยากได้ใครเป็นนายกฯ อีกทั้งในขณะที่กำลังอภิปรายภาคประชาชนกลุ่มราษฎร ก็รอฟังและจะโหวตพร้อมกับในสภา ไม่เหมือนสมัยเผด็จการที่ปิดหูปิดตา ไม่ปล่อยให้ชาวบ้านมีส่วนร่วม การตัดสินในวันพรุ่งนี้ไม่ใช่แบบระบบศาลสถิตย์ยุติธรรมที่ว่ากันด้วยพยานหลักฐาน พยานวัตถุ พยานบุคคล แต่นี่คือศาลประชาชน ซึ่งกำลังทำหน้าที่ตัดสิน โดยศาลประชาชน อาจไม่มีความจำเป็นต้องเรียกหาพยานหลักฐานที่ชัดเจนชัดแจ้ง แต่ดูการนำเสนอข้อมูลการอภิปรายเป็นหลัก
จากนั้น นายสุทิน ได้เริ่มการอภิปรายสรุป โดยเรียงตามลำดับของรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย
1.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งตามข้อกล่าวหา คือ การไปผลิตนโยบายกัญชาเสรี จึงนำไปสู่การละเมิดกฎหมายและอนุสัญญาระหว่างประเทศหลายฉบับ ดังนั้น การที่มาปลดล็อกให้กัญชาเสรี จึงถือว่าเป็นการกระทำผิด ซึ่งเรื่องนี้หากจะทำจริง ไม่มีใครขัดข้อง หากทำเป็นกัญชาทางการแพทย์ แต่รัฐมนตรีก็ตอบชี้แจงแบบดื้อดึงว่า ที่ทำอยู่วันนี้คือกัญชาทางการแพทย์ เพราะในความเป็นจริง ไม่เป็นเช่นนั้น พร้อมตั้งคำถามว่า ในเมื่อขณะนี้กฎหมายยังอยู่ในชั้นการพิจารณาของกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร เหตุใด ถึงไม่ยอมออกเป็นพระราชกำหนดเหมือนครั้งที่ต้องการกู้เงิน เพื่อปกป้องชีวิตของประชาชนและเยาวชนไว้ก่อน พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้ด้อยค่ากัญชา เพราะกัญชามีประโยชน์เยอะ แต่ก็ต้องไม่ละเลยที่จะต้องพูดถึงโทษของกัญชาเช่นกัน
2.นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สมาชิกยังติดใจเรื่องรุกที่ดินเขากระโดง ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงคมนาคม ที่ไหนของสยามเป็นรัฐมนตรี จึงสงสัยว่าที่การดำเนินคดีเป็นไปอย่างล่าช้า เพร่ะไม่กล้าหรือไม่ และประเด็นการซุกหุ้นบริษัทบุรีเจริญ ที่เชื่อว่า ขายหุ้นไปแล้ว ไม่จริง แต่เป็นการยักย้ายถ่ายเทเอานอมินีมารับ ซึ่งบริษัทนี้รับงานจากกระทรวงคมนาคม จึงเป็นที่สงสัย และที่นำหลักฐานการโอนเงินซื้อขายหุ้นมาแสดง คณะทำงานที่ฝ่ายค้าาที่ศึกษาเรื่องนี้เห็นว่า เอกสารที่นำมาแสดงมีพิรุธ หากเป็นเอกสารของธนาคารเหตุใดไม่มีหัวกระดาษของธนาคาร และลายเซ็นเหมือนตัดแปะ ตกขอบออกมาข้างนอก และรายการโอนหุ้นวันแรก เหตุใดจึงโอนเงินก่อนซื้อขายหุ้น 5 – 6 เดือน จึงเชื่อว่าไม่ได้มีการซื้อขายหุ้นจริง สรุปว่าเอกสารนี้ไม่จริง แสดงว่า บุรีเจริญ ยังเป็นของนายศักดิ์สยาม เท่ากับมีผลประโยชน์ทับซ้อนหากเป็นเช่นนี้ ถึงขั้นต้องหลุดจากความเป็นรัฐมนตรี
3.นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ตามข้อกล่าวหาที่โดนอภิปรายว่า มีการใช้กองทุนประกันสังคมไปซื้อหุ้นของบริษัทเอกชนรายหนึ่ง แล้วเอกชนรายนั้นนำเงินไปปั่นหุ้น และการนำเข้าแรงงานและส่งออกแรงงาน โดยมีการเรียกรับเงิน ซึ่งข้อชี้แจงของรัฐมนตรีที่ชี้แจงนั้น พรรคร่วมฝ่ายค้านมองว่า ไม่มีความน่าเชื่อถือ
4.นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน บนเกาะแห่งหนึ่งในภาคใต้ โดยรัฐมนตรีชี้แจงว่าไม่รู้จักกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลของพรรคร่วมฝ่ายค้านเชื่อว่าเป็นพวกเดียวกัน และมีการเอื้อประโยชน์ จึงไม่สามารถไว้ใจได้
5.นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่ยอมรับว่า มีการใช้สปายแวร์ หรือระบบเพกาซัส ในการเจาะข้อมูลมือถือประชาชนจริง แม้จะยืนยันว่า ดำเนินการแก้ไขแล้ว แต่ก็ยังมีเกิดขึ้น แสดงว่ารัฐมนตรี ไม่มีความสามารถในการแก้ไขปัญหา ที่ผ่านมากระทรวงดิจิทัลฯ เน้นทำงานสอดแนมและปราบปราบแต่ฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองมากกว่า จึงขอให้เปลี่ยนรัฐมนตรีคนอื่นมาแก้ไขเรื่องนี้
ส่วนข้อกล่าวหา มีพฤติการณ์จงใจ เสื่อมเสียทางศีลธรรมอันดีฝ่าฝืน และไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ถือเป็นเรื่องสำคัญ ฝ่ายค้านก็คิดหนัก ที่จะหยิบยกมาอภิปราย แต่ก็มีมติให้นางสาวชนก จันทร์ทาทอง ส.ส.หนองคาย ขึ้นมาอภิปราย โดยเรื่องนี้ ผู้หญิงต้องแค้นเคือง ที่ฝ่ายชายไปยกย่องหญิงอื่นหรือ มีชู้ จึงมองว่าผู้หญิงด้วยกันต้องปกป้อง และให้อภิปรายเรื่องนี้ด้วยความระมัดระวัง แต่ก็เกิดความวุ่นวาย เพราะนายชัยวุฒิ กลับตำหนิ นางสาวชนก ถ้าไม่อยากให้เกิดขึ้นก็ไปแก้กฎหมายประมวลจริยธรรม แต่หากยังอยู่ในจริยธรรมก็ต้องบังคับใช้กฎหมายข้อนี้ เมื่อทำผิด ก็ต้องว่ากันตามนั้น
6.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นการถูกกล่าวหาทุจริตถุงมือยางภาคสอง ซึ่งนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทยเป็นผู้อภิปราย ตั้งแต่ภาคแรกต่อเนื่องถึงภาคสอง ซึ่งภาคแรกได้ยื่น ป.ป.ช.ไปแล้ว และ ป.ป.ช. เห็นว่ามีมูล ป.ป.ช.จึงมีการแจ้งข้อกล่าวหาผู้เกี่ยวข้องแล้วรวม 22 ราย โดยนายสุทินยอมรับว่า นายจุรินทร์ เก่งสามารถตอบคำถามได้ แต่ก็มีพิรุธโดยเฉพาะขั้นตอนในการตั้งกรรมการตรวจสอบเอาผิด มีการแกล้งจับผิดแป้งจับถูก ค่อมกันในระหว่างวันอายัดและวันยักยอกถ่ายเทเงิน และสุดท้ายก็โยงมาที่เรื่องรับจำนำข้าวเพื่อหาตัวช่วย ทำให้พิรุธมันออกอาการมันชัด ฝ่ายค้าน จึงปักใจ เชื่อว่า นายจุรินทร์ไม่สุจริตจริง เป็นไปตามญัตติที่ฝ่ายค้านกล่าวหา
7.นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีหน้าที่ดูแลคนยากคนจน โดยเฉพาะเรื่องของการเคหะแห่งชาติ ที่นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส. กทม. พรรคก้าวไกล กล่าวหาว่าเกิดการไม่สุจริตโครงการเคหะ ที่มีบริษัทเซมโก้ที่รับงานของการเคหะจำนวนมาก โดยเฉพาะการถมดินที่มี 38 โครงการ ซึ่งเมื่อไปตรวจสอบพบว่าไม่มีความสามารถและไม่เคยดูแลโครงการเคหะ รวมถึงสถานะการเงินก็มีน้อย ซึ่งทางรัฐมนตรีก็ไม่ตอบชี้แจงในวันที่โดนอภิปราย แต่กลับมาชี้แจงอีกวันภายหลังการอภิปรายว่าบริษัทเซมโก้สามารถรับงานได้ เนืาองจากเป็นบริษัทในลักษณะบริษัทลูกของการเคหะ แต่เมื่อดูการชี้แจงพบว่ายังมีช่องว่างที่ยังมีพิรุธอีกเยอะ จึงไม่สามารถที่จะไว้วางใจให้เป็นรัฐมนตรีต่อไปได้
8.นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งกำกับดูแลกรมธนารักษ์ โครงการท่อส่งน้ำใน EEC ที่ส่อล็อคสเปคการดำเนินกระบวนการดังกล่าว โดยอ้าง ทำตามข้อเสนอของบริษัทที่ปรึกษา ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า บริษัทที่ปรึกษา มีความใกล้ชิดกับรัฐมนตรี และพบยังมีการแก้ TOR จนสุดท้ายบริษัทวงศ์สยามได้รับการประมูล จึงกล่าวหาว่าการดำเนินการมาตั้งแต่ต้นนั้นมีธงที่จะให้บริษัทวงศ์สยามได้รับการประมูล และในที่สุดบริษัทอีสต์วอเตอร์ได้ส่งฟ้องศาลปกครองเพื่อขอความเป็นธรรม เพราะได้รับการประมูลในตอนแรกและยกเลิกไป ดังนั้นหากปัญหา นายกรัฐมนตรีจะต้องรับผิดชอบและเมื่อฟังการตอบของรัฐมนตรีแล้วไม่น่าเชื่อถือ แม้จะบอกว่ายังไม่ได้เซ็นสัญญาก็ตาม
9.พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี โดยฝ่ายค้านกล่าวหาว่าปล่อยให้มีปัญหายาเสพติดขยายตัวขึ้นอย่างน่าตกใจ ซึ่งในวงวิจัยระบุว่าจะต้องจับตาตั้งแต่เด็ก 10 ขวบ และ ปี 2563 ใทยเป็นอันดับ 1 ของอาเซียนในเรื่องของปัญหายาเสพติด และปี 65 มีนักโทษยาเสพติดถึง 81% และวันนี้อย่าเสพติดราคาถูก หาได้ง่าย ดังนั้นพลเอกประวิตรจะต้องรับผิดชอบ รวมทั้งพลเอกประยุทธ์ ต้องรับผิดชอบด้วย เพราะพลเอกประวิตรถือว่าเป็นผู้มีบารมี จึงอยากใช้บารมีในการสั่งปราบยาเสพติดให้หน่อย และวันนี้พวกตนไม่แน่ใจว่าทำถูกหรือผิด ที่ยอมผ่านกฎหมายยาเสพติดให้ แก้โทษให้ผู้ครอบครองยาเสพติด
10.พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประเด็นเจตนาทุจริตประปาส่วนภูมิภาค จ.ปทุมธานี ที่มีบริษัทเอกชน เช่าและทำประปาสัมปทานมาหลายปี เมื่อหมดสัญญา ก็มี 2 ทาง คือ เปิดให้เอกชน หรือเจ้าเดิม มารับสัมปทาน หรือให้การประปา ทำเอง ทั้งนี้จากผลการศึกษา การประปาทำเองดีกว่า ไม่ต้องจ้างเอกชน จนเป็นที่มาของการเสนอเรื่องไปยังบอร์ดบริหาร และส่งมายังรัฐมนตรี ให้ความเห็นชอบ ที่ให้การประปาทำเองซึ่งในครั้งนี้ เอกชนขอสู้ ด้วยการทำกระบวนการ เพื่อเปลี่ยนแปลงมติบอร์ด ซึ่งมีความเป็นไปได้สูง ที่จะให้เอกชนทำต่อ ทำให้เชื่อได้ว่า อาจเป็นการทุจริต มีผลประโยชน์ทับซ้อนไม่น้อยกว่ากรณีท่อส่งน้ำอีอีซีของบริษัทอีสวอเตอร์ ซึ่งการที่พลเอกอนุพงษ์ลุกขึ้นชี้แจงอย่างผิดความคาดหมาย ที่ยืนยันว่า จะไม่ยอมให้เอกชนทำนั้น ทำให้เห็นว่า การอภิปรายครั้งนี้สามารถยับยั้งบางเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นจนทำให้รัฐมนตรีคิดได้ หากไม่ทักท้วง ก็อาจจะเซ็นเอกสารให้ภาคเอกชนทำไปแล้ว ก็ต้องขอบคุณรัฐมนตรีด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews