Home
|
ข่าว

“อีสท์ วอเตอร์” โอดข้อมูลซักฟอกในสภาฯ คลาดเคลื่อนหลายประเด็น กางตัวเลขจัดสรรคืนรัฐกว่า 3 หมื่นล.

Featured Image

 

“อีสท์ วอเตอร์” แจงข้อมูลอภิปรายในสภาฯคลาดเคลื่อน ยันการจ่ายค่าส่วนแบ่งรายได้-จ่ายภาษีถูกต้องตามสัญญา-กฎหมาย ย้ำชัดจ่ายค่าผ่านท่อตามสัญญา ตั้งแต่ปี 2558 ถึงปัจจุบัน

 

 

จากกรณีที่ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ ถูกพาดพิงถึงระหว่างการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ว่า 30 ปีที่ผ่านมา อีสท์ วอเตอร์ ให้ผลตอบแทนต่อรัฐไม่ถึง 600 ล้านบาทนั้น

 

ล่าสุด​ นายเชิดชาย ปิติวัชรากุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อีสท์ วอเตอร์ ชี้แจงว่า ตามสัญญาการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ที่ลงนามไว้เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2536

 

ได้ระบุถึง การจ่ายค่าตอบแทน หรือค่าเช่าท่อ ให้กับกรมธนารักษ์ ไว้ที่ปีละ 2 ล้านบาท หรือปีใดหากมียอดขายน้ำดิบเกินกว่า 200 ล้านบาทต่อปี ให้จ่ายเพิ่ม 1% ของยอดขายน้ำดิบ ก่อนที่ในปี 2558 บริษัทฯได้มีการปรับอัตราชั่วคราวจาก 3% เป็น 7%

 

โดยตั้งแต่ปี 2537-2564 บริษัทฯได้จ่ายค่าตอบแทนให้แก่กรมกรมธนารักษ์ ทั้งสิ้น 588.33 ล้านบาท ขณะเดียวกัน  ยังมีการจัดสรรกำไรในแต่ละปีโดยได้จัดสรรเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นภาครัฐ

 

ซึ่งถือหุ้นอยู่ในอีสท์วอเตอร์ 45% เป็นเงินรวมประมาณ 5,500 ล้านบาท ผลประโยชน์ส่วนเพิ่มของผู้ถือหุ้นภาครัฐ 3,060 ล้านบาท ลงทุนแทนภาครัฐ ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของคณะรัฐมนตรี (ครม.) 22,000 ล้านบาท รวมทั้งสิ้นกว่า 30,000 ล้านบาท ยังไม่รวมปันผลแก่ผู้ถือหุ้นทั่วไปหลังจากจัดสรรปันผลแล้ว จะสะสมเป็นกำไรสะสมในงบการเงิน ณ สิ้นปี 2564 มีจำนวน 6,800 ล้านบาท

 

ในส่วนของการกำหนดราคาจำหน่ายน้ำดิบนั้น เป็นการกำหนดที่สะท้อนต้นทุนและได้กำไรที่เหมาะสมต่อความสามารถในการนำไปใช้ในการลงทุนได้ต่อเนื่อง จะเห็นได้ว่าในช่วง 10 ปีแรก อัตราค่าน้ำดิบโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 7 บาทต่อลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)

 

ในปีที่ 11-20 อัตราค่าน้ำดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 8.5 บาทต่อ ลบ.ม. และในปีที่ 21-30 อัตราค่าน้ำดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 11 บาทต่อ ลบ.ม. ดังนั้น​ ในส่วนของการเก็บค่าน้ำดิบชัดเจนว่าราคาสูงสุดเฉลี่ยไม่เกิน 11 บาทต่อ ลบ.ม. ไม่ใช่ ลบ.ม.ละ 12 บาทกว่า และสูงสุด  ลบ.ม.ละ 26 บาท อย่างที่มีการกล่าวอ้างกันในสภาผู้แทนราษฎรแต่อย่างใด

ขณะที่การจ่ายผลตอบแทนให้แก่ภาครัฐ บริษัทฯ​ ได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง โดยจ่ายค่าเช่าบริหารท่อในอัตราที่เป็นไปตามสัญญา ตามที่รัฐบาลเป็นผู้กำหนด หรือกรณีเส้นท่อที่ไม่มีสัญญาก็ได้จ่ายในอัตราชั่วคราว

 

ตามที่ตกลงร่วมกันทั้งสองฝ่าย การชำระค่าเช่าบริหารท่อในแต่ละปีให้แก่กรมธนารักษ์ ตั้งแต่ปี 2537-2564 เป็นไปตามสัญญาและตามเงื่อนไขของกรมธนารักษ์ โดยรายได้ที่นำมาคำนวณผลตอบแทนนั้นถูกต้องและสามารถตรวจสอบได้ เป็นไปตามงบการเงินซึ่งผ่านการตรวจสอบจากผู้บัญชีที่น่าเชื่อถือ
ส่วนกรณีที่มีการระบุว่า อีสท์ วอเตอร์ ไม่ได้อำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าหน้าที่ของกรมธนารักษ์ ในการลงพื้นที่รับทราบข้อมูลและข้อเท็จจริงที่ จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง ในระหว่างวันที่ 21-22 เม.ย.65

 

นั้น นายเชิดชาย ยืนยันว่า อีสท์ วอเตอร์ ไม่ได้ขัดขวางการเข้าพื้นที่แต่อย่างใด แต่เนื่องจากบริษัทได้รับหนังสือจากกรมธนารักษ์ เมื่อวันที่ 20 เม.ย.65 เวลา 15.00 น.

 

ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ค่อนข้างกระชั้นชิดในการมอบหมายพนักงานของบริษัทฯที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการเตรียมข้อมูลและสถานที่เพื่ออำนวยความสะดวกในการลงพื้นที่ แก่เจ้าหน้าที่ของกรมธนารักษ์  ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19

 

ซึ่งบริษัทต้องปฎิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ตามแนวทางของราชการในพื้นที่ปฎิบัติการอย่างเคร่งครัด “อีสท์ วอเตอร์ จึงขอให้กรมธนารักษ์ เลื่อนวันที่จะลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ออกไปก่อน หากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย บริษัทฯก็จะจัดเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับสถานที่ และข้อมูลที่เกี่ยวข้อง บริษัทฯยินดีให้ความร่วมมือและอำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ของกรมธนารักษ์”
โดยที่ผ่านมา อีสท์ วอเตอร์ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงาน ยกตัวอย่างกรณีที่ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ขอข้อมูลเอกสารการสืบสวนและส่งเจ้าหน้าที่ร่วมตรวจพื้นที่

 

เนื่องจากมีเรื่องร้องเรียนว่าบริษัทฯอาจมีการลักลอบเชื่อมต่อท่อส่งน้ำดิบ ระหว่างสายหนองค้อ-แหลมฉบัง (ระยะที่ 1) เข้ากับท่อส่งน้ำดิบ สายหนองค้อ-แหลมฉบัง (ระยะที่ 2) อาจมีการเสียภาษีไม่ถูกต้องตามกฎหมาย

 

โดยขอให้บริษัทฯจัดส่งเจ้าหน้าที่และส่งมอบหลักฐานไปให้ เรื่องนี้บริษัทฯยินดีให้ความแก่เจ้าหน้าที่ โดยได้มอบผู้แทนเข้าให้ข้อมูลแล้ว รวมทั้งส่งเอกสารสรุปข้อมูลเกี่ยวกับความสามารถในการจ่ายน้ำ ปริมาณน้ำที่ได้จำหน่าย และรายได้จากการจำหน่ายน้ำดิบจากท่อส่งน้ำหนองค้อ-แหลมฉบัง ระยะที่ 1 และท่อส่งน้ำหนองค้อ-แหลมฉบัง ระยะที่ 2 ย้อนหลังตั้งแต่ปี 2545 ถึงปัจจุบัน และเอกสารทางการเงินของบริษัทย้อนหลัง 5 ปีให้แก่ทางดีเอสไอแล้ว

 

การกล่าวหา อีสท์ วอเตอร์ ในเรื่องต่างๆ ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่ผ่านมาได้ดำเนินธุรกิจให้บริการจัดหาส่งน้ำให้พื้นที่ จ.ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

 

ในการสูบจ่ายน้ำให้ลูกค้าในแนวท่อ ที่บริษัทฯบริหารอยู่ทั้งหมด ดำเนินการในลักษณะองค์รวม Water Grid โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อลูกค้า ทั้งในแง่ของเสถียรภาพการสูบจ่าย และปริมาณน้ำที่ต้องเพียงพอแก่ลูกค้าตลอดทั้งปี เป็นพันธกิจที่สอดคล้องกับมติ ครม. ที่จัดตั้งบริษัทฯขึ้นมา เพื่อบริหารจัดการน้ำในภาคตะวันออก เน้นการบริหารงานเพื่อสาธารณประโยชน์ของพื้นที่เป็นสำคัญ

 

รวมถึงการสร้างความมั่นคงและเสถียรภาพด้านน้ำให้กับลูกค้า เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทันที โดยบูรณาการเชื่อมโยงเส้นท่อทั้งของกรมธนารักษ์ที่มีอยู่เดิม และที่บริษัทฯสร้างใหม่ เพื่อสร้างความมั่นคงด้านน้ำให้กับผู้ใช้น้ำเป็นลูกค้าของบริษัทฯเป็นหลัก

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube