Home
|
ข่าว

“ศรัณย์วุฒิ”แฉน้อง”บิ๊กป้อม”อักษรย่อ พ.เดินเรื่องดีลลับ

Featured Image
“ศรัณย์วุฒิ” แฉ น้อง”บิ๊กป้อม”อักษรย่อ พ.เดินเรื่องดีลลับ2 พรรคล่มสภา ล่ม”บิ๊กตู่” ท้าสาบานวัดพระแก้ว

 

 

นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อชาติ ตั้งข้อสังเกตว่า หากการประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 10 สิงหาคม มีปัญหาเรื่ององค์ปรชุม และทำให้การประชุมล่มจะตอบโจทย์ของดีลลับระหว่างพรรคพลังประชารัฐและพรรคเพื่อไทย เพื่อให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังการเลือกตั้งที่จะมาถึง ทั้งนี้ ในดีลดังกล่าว เป็นดีลลับระหว่าง 2 เผด็จการเพื่อล้ม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม โดยมีตัวละครที่เดินเรื่องคือน้องชายของ พล.อ.ประวิตร ที่มีชื่อ ที่ขึ้นต้นด้วย อักษร “พ.”

 

ทั้งนี้ ขอท้าให้ พล.อ.ประวิตร สาบานที่วัดพระแก้วว่า ไม่มีดีลลับดังกล่าวเช่นเดียวกับพรรคเพื่อไทยที่ขอให้สาบานว่า ไม่มีดีลลับกับพล.อ.ประวิตร เพื่อล้ม พล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ประวิตร เป็นนายกฯ

 

ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ว่า พล.อ.ประยุทธ์จะอยู่ต่ออีก 2 ปีนั้น เป็นคำพูดที่ไม่ตรงกับการกระทำ และเป็นคำพูดเพื่อหว่านล้อมให้เคลิบเคลิ้ม แต่หากพล.อ.ประวิตร รัก พล.อ.ประยุทธ์ ฐานะน้องชายจริง ต้องไม่ล้มสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อด้วยจำนวน 500 คน หาค่าเฉลี่ย ในร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.

 

อย่างไรก็ตาม การใช้สูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อด้วยจำนวน 100 คนนั้น เพื่อทำให้บางพรรคแลนด์สไลด์ หาก พล.อ.ประวิตรไม่ได้รับประโยชน์จริง ทำไมต้องสนับสนุนที่ทำให้พรรคพลังประชารัฐเสียเปรียบ

 

สำหรับกรณีของดีลลับมีหลักฐานที่ชัดเจน เพื่อยืนยันการกระทำดังกล่าวหรือไม่ นายศรัณย์วุฒิ กล่าวว่า ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน เพราะใครจะให้ แต่เป็นการนัดเจอกันแบบลับๆทั้งนี้ การแตกแยกระหว่าง พล.อ.ประวิตร และพล.อ.ประยุทธ์ ที่ผ่านมาเป็นการแตกแยกเชิงโครงสร้าง เบื้องหลังนั้น ไม่ใช่พล.อ.ประวิตร แต่คนที่กุมบังเหียน คือ น้องชาย ของพล.อ.ประวิตร ชื่อย่อ “พ.”

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube