“อนุทิน”เปิด Meet the Press :กัญชา กัญชง เพื่อประโยชน์ทางการแทพย์-เศรษฐกิจ รุกสร้างความเข้าใจ พร้อมให้ข้อมูลหลังปลดล็อก ไม่ได้สร้างผลกระทบด้านลบต่อสังคม
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เป็นประธานในงาน“Meet the Press : กัญชา-กัญชง เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และเศรษฐกิจ” โดยมี พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ พร้อมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขเข้าร่วม
โดยงานครั้งนี้จัดโดยกรมประชาสัมพันธ์ ในฐานะคณะอนุกรรมการด้านการสื่อสารประชาสัมพันธ์ ภายใต้คณะกรรมการบูรณาการนโยบายพืชกัญชาและกัญชง เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายกัญชา-กัญชงทางการแพทย์ของรัฐบาลกับสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างชาติ เพื่อนำไปสู่การนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องและสามารถนำไปขยายผลการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบอย่างกว้างขวาง
โดยนายอนุทิน กล่าวว่า หลังจากปลดล็อกกัญชา กัญชง ตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นเวลา 2 เดือน นโยบายกัญชาเสรีเพื่อสุขภาพและการแพทย์ไม่ได้ก่อผลกระทบด้านลบต่อสังคมมากอย่างที่มีการกังวล เห็นได้จากจำนวนผู้เข้ารับการรับการรักษาและผู้ป่วยที่เกิดอาการไม่พึงประสงค์หรือภาวะพิษเฉียบพลันจากกัญชา ณ ห้องฉุกเฉิน ระหว่างวันที่ 6 มิ.ย.-16 ส.ค.เป็นเวลา 2 เดือนกว่า มีผู้ป่วย 60 ราย หรือเฉลี่ยเพียงวันละ 1 คน ซึ่งไม่มีนัยสำคัญเมื่อเทียบเทียบกับจำนวนประชากรทั้งประเทศเกือบ 70 ล้านคน
ซึ่งทั้งหมดมาจากการได้รับข้อมูลข่าวสารการใช้กัญชา กัญชงที่ถูกต้องผ่านช่องทางต่างๆของรัฐ ไปทั่วประเทศ ทั้งการมีคณะกรรมการสื่อสารและประชาสัมพันธ์การใช้กัญชาอย่างเข้าใจ ขณะที่แอปพลิเคชั่น “ปลูกกัญ”ที่รวบรวมข้อมูลการใช้ที่ถูกต้องและการอนุญาตกัญชาไว้ ขณะนี้ก็มีผู้เข้าใช้งานเกือบ 46 ล้านครั้ง มีผู้ลงทะเบียนกว่า 1 ล้านคน ส่วนที่ใช้เพื่อผลิตภัณฑ์ยา อาหาร เครื่องสำอาง ก็มี อย.ที่ต้องดำเนินการตามขั้นตอนปกติ ซึ่งเป็นการควบคุมมาตรฐานการใช้กัญชาให้มีความรอบคอบ และควบคุมการใช้กัญชาให้มากที่สุด
ทั้งนี้นายอนุทิน กล่าวว่า การปรับเปลี่ยนนโยบายก่อนจะสร้างความได้เปรียบให้กับประเทศไทย เนื่องจากตลาดผลิตภัณฑ์จากกัญชามีมูลค่าสูง ขณะที่ไทยก็มีองค์ความรู้และภูมิปัญหาดั้งเดิมอยู่มาก เช่น กรณีโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรที่มีการวิจัยยากัญชาที่จะมาทดแทนยานอนหลับ ที่ปัจจุบันเฉพาะคนไทยเองก็มีปัญหาเรื่องการนอนอยู่ถึง 19 ล้านคนซึ่งผลการวิจัยนี้จะช่วยลดการนำเข้ายาจากต่างประเทศและเพิ่มโอกาสการส่งออก เพราะตอนนี้ตลาดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์มูลค่าสูงหลายล้านล้านบาท
สำหรับความเคลื่อนไหวในต่างประเทศสัปดาห์หน้ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย ได้ประกาศนโยบายที่จะใช้กัญชาทางการแพทย์ในมาเลเซียก็จะมาพบผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุขและขอดูงานการดำเนินการของประเทศไทย ขณะที่เยอรมนีก็อยู่ระหว่างกระบวนการออกกฎหมายกัญชาเสรี ซึ่งการที่เยอรมนีเป็นประเทศอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ทำให้คาดว่าประเทศอื่นๆ ในยุโรปจะดำเนินนโยบายในทิศทางเดียวกัน ซึ่งเป็นโอกาสที่ไทยจะเจาะตลาดไปยังประเทศต่างๆสร้างส่วนแบ่งในการส่งออกผลิตภัณฑ์จากกัญชากัญชง เช่นเดียวกับแคนาดาที่ประกาศให้กัญชาถูกกฎหมายเมื่อ 4 ปีที่แล้ว และขณะนี้สร้างรายได้เข้าประเทศได้สูงถึง 2,000 ล้านยูโรต่อปี
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews