“ปกรณ์วุฒิ” ฉะไม่ควรจัดสรรงบฯให้กับศูนย์เฟคนิวส์
“ปกรณ์วุฒิ” ก้าวไกล ฉะไม่ควรจัดสรรงบฯให้กับศูนย์เฟคนิวส์ ด้าน “ศรัณย์” เสนอตัดลดอีก 5%
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี 2566 วงเงิน 3.185 ล้านล้านบาท วาระสอง ในส่วนงบกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ที่มีการตั้งงบประมาณหลังจากการปรับลดแล้วอยู่ที่วงเงิน 3,735 ล้านบาท
โดยนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สุกล ในฐานะกรรมาธิการสัดส่วนพรรคก้าวไกล อภิปรายชี้ถึงสาเหตุที่ไม่ควรจัดสรรงบประมาณให้กับศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม 1.ความเป็นกลาง 2.ไม่มีมาตรฐาน และ 3.จำกัดเสรีภาพของประชาชนและสื่อมวลชน พร้อมชี้ถึงปัญหาการตรวจสอบหรือเช็คเรื่องข้อมูลข่าว ยังทักท้วงว่า มีการเผยแพร่ข่าวปลอมของส่วนราชการ แต่ไม่มีการแก้ไข ก่อนจะทิ้งท้ายว่าศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมอาจกลายเป็นตราประทับรับรองให้กับการทุจริตของภาครัฐ และย้ำว่าไม่ควรมีศูนย์นี้รวมถึงการรับงบประมาณจากภาษีของประชาชน
สอดคล้องกับนายศรัณย์ ทิมสุวรรณ ส.ส.พรรคเพื่อไทย อภิปรายเสนอตัดลดงบประมาณลงร้อยละ 5 ด้วยเห็นว่า การตั้งงบประมาณของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน โดยเฉพาะในการตั้งงบประมาณไว้ 1,000 ล้านบาท แบบจ้างเหมาในโครงการพัฒนาโครงสร้างและความปลอดภัยด้านดิจิทัล รวมถึงโครงการคอลเซ็นเตอร์ 1111 ที่ได้สะท้อนว่าไม่มีผลสัมฤทธ์ที่ชัดเจน หรือประชาชนได้รับประโยชน์มากน้อยแค่ไหน ส่วนศูนย์ดิจิทัลชุมชน ยังพบปัญหาในการดำเนินการทั้งเรื่องการจัดซื้อคุรุภัณฑ์ที่พบพิรุธในกระบวนการจัดซื้อ
ด้านนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.พรรคก้าวไกล อภิปรายย้ำว่าการเสนอปรับลดงบประมาณในทุกมาตราในส่วนโครงการที่พบว่ามีความซ้ำซ้อน 290 โครงการวงเงิน 1,500 ล้านบาท โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานทางด้านดิจิทัล หรือเซิฟเวอร์ และค่าใช้จ่ายในการทำ Data center โดยยังกล่าวถึงกระบวนการพิจารณางบประมาณที่เห็นว่าไม่ถูกต้อง เพื่อไปพัฒนาปรับปรุงในการพิจารณางบประมาณปีต่อไป เช่นการใช้ดาต้าเซ็นเตอร์กลางของภาครัฐ
จากนั้น นางสาวกัลยา รุ่งวิจิตรชัย กรรมาธิการ ชี้แจงว่า การจัดตั้งศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ที่ตั้งงบ 86 ล้านบาท เพื่อเป็นปฏิบัติการในการรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลที่เผยแพร่ในอินเตอร์เน็ตและเครือข่ายสังคมออนไลน์ ด้วยตั้งเป้าว่าจะเป็นช่องทางที่จะลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนในการสื่อสาร และปัญหาการเผยแพร่ข่าวสารที่เป็นเท็จ ส่วนปัญหาคอลเซ็นเตอร์รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ซึ่งกรรมาธิการได้จัดทำข้อสังเกตตามข้อเสนอแนะของสมาชิก และมีการปรับลดงบประมาณในส่วนที่เห็นว่าอาจจะไม่ก่อให้เกิดประสิทธิภาพในบางโครงการ ทั้งนี้ กล่าวทิ้งท้ายว่าไม่ขอตอบคำถามในส่วนของรัฐมนตรี รอให้เป็นรัฐมนตรีก่อนแล้วจะมาตอบคำถาม
อย่างไรก็ตาม สภาผู้แทนราษฎร มีมติเห็นชอบงบประมาณของประทรวงดีอีเอสตามร่างของกรรมาธิการด้วยคะแนนเสียง 224 ต่อ 106 งดออกเสียง 1 ไม่ลงคะแนนเสียง 4
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews