สภายังไม่ได้ข้อยุติ พรบ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ประธาน ให้ กมธ.กลับไปปรึกษาหารือกันก่อน นำกฏหมายกลับเข้ามาพิจารณากันใหม่
ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรวานนี้ ยังไม่ได้ข้อยุติ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่..) พ.ศ. . โดยนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง สั่งปิดประชุม หลังสมาชิกลงมติ และอภิปรายมาตรา 17 อย่างหลากหลาย
ทั้งนี้ มีคณะกรรมาธิการขอสงวนความเห็น มีผู้แปรญัตติขอสงวนคำแปรญัตติ และสมาชิกอภิปรายจำนวนมาก โดยมาตรา 17 มีการแก้ไข ขอให้ยกเลิกมาตรา 44 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ.2560 ซึ่งเกี่ยวการตัด หรือ ปรับลด อัตราดอกเบี้ย ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นด้วยกับกรรมาธิการเสียงข้างน้อย ด้วยคะแนน 226 ต่อ 87 งดออกเสียง 3
จากนั้น นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.จังหวัดศรีษะเกษ พรรคภูมิใจไทย อภิปรายว่า ตนไม่เห็นด้วยที่คณะกรรมาธิการให้มีการคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 เนื่องจากผู้ที่กู้ยืมจำเป็นต้องมีวินัยทางการเงิน กองทุนนี้มีขึ้นมา 20 ปี ปัญหาที่พบเจอคือดอกเบี้ยที่สูงเกินไป ค่าปรับที่สูงเกินไป และผู้ค้ำประกันที่ต้องรับภาระแทนผู้กู้ พรรคภูมิใจไทยได้เสนอตั้งแต่วาระที่หนึ่งว่าอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมต่อการกู้ยืมคือ 0% และไม่ควรจะมีเบี้ยค่าปรับ โดยไม่ต้องกังวลว่าหากไม่มีเบี้ยค่าปรับแล้วจะมีวินัยทางการเงินได้อย่างไร เพราะเมื่อเรื่องนี้ถึงศาลก็ต้องเสียเงินไปกับการทำคดี ถือเป็นการลงโทษไปในตัว เชื่อว่ากองทุน กยศ. ยังมีรายได้อื่นที่เพียงพอที่จะหล่อเลี้ยงแม้จะไม่มากพอแต่ก็สามารถเดินหน้าไปได้
ด้านนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.จังหวัดพิษณุโลก พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ตนเป็นคนหนึ่งที่กู้ กยศ.เรียน และเพิ่งผ่อนชำระหมดไปเมื่อปีที่แล้ว ลูกหนี้ทุกคนไม่ได้มีชีวิตแบบที่เป็นตัวเลขที่จะประเมินว่าเป็นหนี้เสียได้เท่าไหร่ จุดประสงค์ที่แท้จริงของกองทุนนี้คือการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา การแก้ไขกฎหมายจึงจำเป็นต้องรับมือกับความยืดหยุ่นของสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ซึ่งพรรคก้าวไกลสามารถชั่งน้ำหนักได้ระหว่างการเปิดโอกาสกว้างให้กับกองทุน และการรักษากองทุนนี้ให้ยังคงอยู่ได้
เพราะฉะนั้นการมีเบี้ยปรับจึงเป็นเรื่องสมควร โดยอาจมีเบี้ยปรับไม่เกินร้อยละ 1 ต่อปี หมายความว่ารัฐบาลสามารถยืดหยุ่นได้หากปีไหนที่เกิดวิกฤติก็สามารถปลอดดอกเบี้ยได้ บริบทของการศึกษาเปลี่ยนทุกปีเพราะฉะนั้นถ้ามีกฎหมายที่เปิดช่องให้ยืดหยุ่นเพื่อให้รัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดี โดยต้องคิดถึงเรื่องการจัดสรรงบประมาณในหลายด้านเพื่อทำให้การเรียนฟรีเป็นจริงได้
จากนั้น นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง ทำหน้าที่ประธานการประชุมในขณะนั้น ได้สั่งพักประชุมภายหลังสมาชิกอภิปรายครบ และได้กลับมาเปิดประชุมอีกใน 30 นาทีต่อมา พร้อมกันนี้ ได้มีการหารือกับกรรมาธิการฯ ผู้แปรญัตติ และผู้สงวนคำแปรญัตติให้กลับไปปรึกษาหารือกันว่าส่วนไหนที่เหมาะสม และดีที่สุดสำหรับกฎหมายดังกล่าว แล้วนำกฎหมายกลับเข้ามาพิจารณากันใหม่ในสภาฯ และได้สั่งปิดประชุมสภาในเวลา 20.44 น.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews