รองโฆษกแจงถกกรอบความร่วมมือเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก ไทยไม่เสียเปรียบการค้า วอนเพื่อไทยอย่าโยง-จินตนาการเกินจริง
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทีมโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งเรื่องกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก (IPEF) ว่าไทยจะเสียเปรียบการค้า เสียเปรียบต่างๆนาๆ และพูดถึง เรื่องความเชื่อมั่นของต่างประเทศในการจัดประชุมเอเปคของไทยว่าสะท้อนให้เห็นเป็นการแสดงความคิดเห็นแบบคนที่ขาดวุฒิภาวะและความรู้ ความเข้าใจ ตื้นเขิน ที่อาจส่งผลต่อการเข้าใจผิดของประชาชน จึงต้องสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจให้อีกครั้ง
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก (IPEF) วันที่ 8-9 กันยายน 2565 ณ นครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา เพื่อหารือแนวทางการขับเคลื่อนความร่วมมือภายใต้ภายใต้ 4 เสาความร่วมมือ ได้แก่ ด้านการค้า ด้านห่วงโซ่อุปทาน ด้านพลังงานสะอาด การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน โครงสร้างพื้นฐาน และด้านภาษีและการต่อต้านการทุจริตเพื่อความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรม เพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก เพื่อประโยชน์ที่จับต้องได้สำหรับประชาชน รวมทั้งไทยที่เข้าร่วมก็จะกล่าวถึงวาระการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทยในปีนี้ด้วย
ดังนั้น สิ่งที่พรรคเพื่อไทยกังวลโยงไปถึงข้อเสียเปรียบทางการค้า หรือข้อกังวลอื่นๆ เป็นข้อคิดเห็นที่ไม่เป็นความจริง ไม่มีเรื่องการค้าที่จะเสียเปรียบใดๆ ทั้งนั้นจินตนาการเกินเลยข้อเท็จจริงไปมาก และข้อเท็จจริงอีกประการคือนานาประเทศมีความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลไทยและมีแนวโน้มความสำเร็จที่จะนำประโยชน์มาสู่ประเทศชาติและคนไทยทั้งประเทศอย่างมาก
น.ส. ทิพานัน กล่าวว่า ส่วนเรื่องการประชุมเอเปคเป็นการ “เปิดกว้าง สร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล: Open Connect Balance” ที่เป็นแนวคิดหลักของการประชุมเอเปคที่ไทยซึ่งหลายการประชุมที่เกี่ยวข้องกับ APEC ในไทยที่ผ่านมา ก็ประสบผลความสำเร็จด้วยดี โดยการ ที่ประชุมฯ มุ่งเน้นการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการฟื้นตัวของ Start-upและวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย (MSME) ในภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก เพื่อขับเคลื่อน 4 ประเด็นสำคัญ เพื่อการฟื้นตัวของ Start-up และ MSME ในภูมิภาคเอเปคดังนี้
1. เร่งรัดการประยุกต์ใช้ BCG
2. การเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลอย่างครอบคลุม
3. การจัดหาเงินทุนและการปรับโครงสร้างหนี้
4. การรับมือกับตลาดที่กำลังพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไป
น.ส. ทิพานัน กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย (MSME) ที่เป็นกุญแจสำคัญสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาค เนื่องจากกว่าร้อยละ 98ของธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก คือ MSME โดย MSME เหล่านี้สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจคิดเป็นร้อยละ 40-60 ของ GDP ของเอเปค ดังนั้น รัฐบาลจึงสนับสนุน
“น่าเสียดายที่พรรคเพื่อไทยพยายามสร้างภาพว่าเก่งด้านเศษฐกิจ แต่กลับวิจารณ์เศรษฐกิจแบบไม่เข้าใจ ไร้ประโยชน์ ไร้ข้อมูลจริง คล้ายกับเป็นการสื่อสารเพื่อทำลายชาติ ทำลายความหวังในการฟื้นฟูประเทศทำลายเงินที่จะเข้ากระเป๋าคนไทย และยังวนเวียนกับเรื่องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก ทั้งที่อยู่ในกระบวนการวินิจฉัยของศาล พรรคเพื่อไทยควรไปหมกมุ่นหนึ่งในนโยบายของพรรคเรื่องทุจริตคอรัปชัน โดยเร่งพานักโทษหนีคดีกลับบ้าน นำเงินที่โกงไปหลายแสนล้าน กลับมาคืนคนไทยจะดีกว่า”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews